สถานการณ์น้ำโขงที่ไหลผ่าน 4 จังหวัดภาคอีสาน เริ่มวิกฤตบางจุดล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนแล้ว
วันที่ 31 ก.ค. 2561 ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งสัปดาห์ประกอบกับ สปป.ลาว เพิ่มการปล่อยน้ำจากเขื่อนน้ำงึม 5 สู่ลำน้ำโขง ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงตั้งแต่ จ.บึงกาฬ ลงมายังนครพนม ไปจนถึง จ.อุบลราชธานี เพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้เกิดน้ำท่วมหนักขึ้น จากเดิมที่น้ำในแม่น้ำโขงได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่แถวสะพานไทย-ลาว จ.นครพนม และริมฝั่งโขงใน จ.อุบลราชธานี อยู่แล้ว
กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเตือนประชาชนริมฝั่งโขง 4 จังหวัดนครพนม, มุกดาหาร, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและให้เก็บของขึ้นที่สูงเตรียมพร้อมอพยพ เนื่องจากระดับน้ำโขงสูงขึ้นวันละเกือบ 1 เมตร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีก
ล่าสุดระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.อุบลราชธานี อ.โขงเจียม ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งเพียง 20 เซนติเมตร, จ.มุกดาหาร อ.เมือง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 65 เซนติเมตร, จ.นครพนม อ.เมือง ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 73 เซนติเมตร และที่ จ.หนองคาย วัดได้ 9.62 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานตอนเช้า 0.36 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 2.58 เมตร ระดับน้ำลดลงจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ทำระดับแตะ 10 เมตร
ล่าสุดเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี ได้ยกบานประตูระบายน้ำทั้ง 8 บาน เพื่อลดระดับการกักเก็บน้ำตามคำสั่งของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำมูล ให้น้ำไหลลงแม่น้ำโขงบริเวณปากแม่น้ำสองสี แต่ช่วง 2-3 วันมานี้แม่น้ำโขงมีปริมาณน้ำมาก ส่งผลให้เมื่อน้ำจากแม่น้ำมูลมาสมทบ น้ำทั้งสองสายไหลปะทะกันจนเกิดการเอ่อล้นท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขง และยังมีแนวโน้มว่าน้ำจะท่วมสูงขึ้น เพราะแม่น้ำโขงยังปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยวันละ 40-50 เซนติเมตร
นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า จากสถานการณ์แม่น้ำโขงในช่วงนี้ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะระดับน้ำผันผวนขึ้นลง และไหลเชี่ยว ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และรอฟังประกาศจากทางจังหวัด หากมีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดวิกฤติประมาณ 11 เมตร
ติดตามสถานการณ์น้ำได้ที่ http://www.thaiwater.net
