เรียกตัว ! โจ๋รุมกระทืบหนุ่มกลางงานกาชาดสอบสวนแล้ว

เรียกตัว ! โจ๋รุมกระทืบหนุ่มกลางงานกาชาดสอบสวนแล้ว

ในประเทศ

ประเด็นคือ – คืบหน้าวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาท ในงานประเพณีปีใหม่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเรียกตัวมาสอบสวนและตั้งข้อหาแล้วบางส่วน

จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกระทบกระทั่งกันจากหน้าเวทีดนตรีในงานประเพณีปีใหม่กาชาดของ จ.ร้อยเอ็ด ช่วงการแสดงของศิลปินเพื่อชีวิต “ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์” จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้วตำรวจไม่สามารถระงับเหตุเบื้องต้นได้ จึงเดินออกมาทางด้านประตูด้านทิศใต้หน้า สนง.สรรพากร และ สนง.ปศุสัตว์จังหวัด จากนั้นเกิดกระทบกระทั่งกันอีกครั้ง

และก่อการวิวาททำร้ายร่างกายกันอีกรอบ โดยกลุ่มวัยรุ่น 7 คน จากบ้านแมด ต.สะอาดสมบูรณ์ อ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รุมทำร้ายร่างกายวัยรุ่นบ้านน้ำใส หมู่ที่ 4 ต.น้ำใส อ.จตุรพักตรพิมาน จนได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายรัฐพงษ์ สมเพ็ชร อายุ 20 ปี และนายสถาพร รัตนสมบัติ อายุ 20 ปี มีแผลบวมช้ำตามร่างกาย ไม่มีแผลแตก จากนั้น ในช่วงตอนสายของวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ญาติของผู้รับบาดเจ็บได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิดผู้ก่อเหตุ

ซึ่งความคืบหน้าของคดีหลังแจ้งความ ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้เกี่ยวข้อง 2 ใน 7 ในเหตุการณ์ ซึ่งแกนนำชุมชนชี้ตัวและจดจำได้ในการก่อเหตุ 2 ราย ที่ปรากฏภาพชัดเจนมาสอบปากคำแล้ว ในขณะที่ส่วนที่เหลือได้ส่งคลิปให้แกนนำชุมชนยืนยันตัวตน เพื่อเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินคดีต่อไปในภายหลัง

ขณะที่ พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด บอกว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากพนักงานสอบสวนพบว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายร่างกายกันหลังงานเลิก จนกระทั่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย แต่มาแจ้งความเพียง 2 ราย

ซึ่งหลังการแจ้งความได้บันทึกปากคำและส่งผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกายที่อยู่โรงพยาบาล เพื่อนำหลักฐานการตรวจร่องรอยการบาดเจ็บมาประกอบสำนวนการสอบสวน จากนั้นจะได้ให้ชุดสืบสวนเก็บข้อมูลหลักฐานและภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดที่มีภาพของผู้ก่อเหตุ แล้วส่งให้ผู้นำชุมชนตรวจสอบว่าผู้ก่อเหตุคือใคร และรายชื่อที่อยู่เบื้องต้น 2 ราย ส่วนอีก 5 รายที่เหลือ อยู่ระหว่างการรอตรวจสอบข้อมูลที่ชัดเจน ที่จะนำมาสอบปากคำและดำเนินคดีต่อไป คาดว่าภายในเวลาไม่เกิน 2 วันนี้ ก็จะสามารถเรียกตัวมาสอบสวนดำเนินคดีได้ทั้งหมด

ส่วนสาเหตุของการทะเลาะวิวาทในข้อมูลชัดเจนว่า ทั้งสองฝ่ายไม่เคยมีกรณีพิพาทกันมาก่อน แต่เหตุที่เกิดเป็นเพียงการกระทบกระทั่งกันในขณะที่มาเที่ยวงานเท่านั้น ซึ่งความผิดเบื้องต้น ตั้งข้อทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจผู้อื่น ยึดตามความเห็นจากการตรวจอาการบาดเจ็บของร่างกายตามหลักฐานของแพทย์เป็นหลักในการสอบสวนดำเนินคดีตามความผิด

ซึ่งสภาพร่างกายไม่ได้บาดเจ็บสาหัสเพราะไม่มีการใช้อาวุธในขณะก่อเหตุ ซึ่งเป็นข้อหาทำร้ายร่างกายซึ่งมีเพียงโทษปรับเท่านัั้น ซึ่งตนเน้นให้พนักงานสอบสวนยืนอยู่ในจุดของความเป็นกลางและเข้มงวดด้านการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง
เรียกตัว ! โจ๋รุมกระทืบหนุ่มกลางงานกาชาดสอบสวนแล้ว