
เทศบาลนครเชียงใหม่แจงกรณีโซเชียลดราม่าจับกุม 2 ชายต่างด้าวงมหอยขมในคูเมืองเชียงใหม่ ยืนยันแค่ว่ากล่าวตักเตือน แต่โดนตำรวจดำเนินคดีเพราะตรวจสอบพบว่าหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์และวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเทศบาลนครเชียงใหม่ร่วมปฏิบัติหน้าที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ ทำการควบคุมตัวชายต่างด้าว 2 คน ที่ลักลอบจับสัตว์น้ำ (หอยขม) ในคูเมืองเชียงใหม่ โดยมีการนำตัวไปที่สถานีตำรวจและมีการถ่ายภาพนำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก “สำนักงานเทศกิจ เทศบาลนครเชียงใหม่” ซึ่งทำให้มีผู้นำไปเผยแพร่ต่อและเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมากในเชิงตำหนิอย่างรุนแรง ว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ ตลอดจนมีการนำไปเปรียบกับกรณีนักธุรกิจใหญ่ในคดียิงเสือดำ

ล่าสุดนายณัฐฐ์ชูเดช วิริยดิลกธรรม รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่เทศกิจทราบว่า การควบคุมตัวชายทั้ง 2 คนที่ลักลอบจับสัตว์น้ำ หรือหอยขมในคูเมืองเชียงใหม่ดังกล่าวนั้น ทางตำรวจเป็นผู้ควบคุมตัวและได้เชิญเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าร่วม เนื่องจากเข้าใจว่าเทศบาลนครเชียงใหม่ มีเทศบัญญัติบังคับในเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามเมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่เทศกิจได้แจ้งให้ทราบว่าคูเมืองเชียงใหม่เป็นเขตอภัยทานจริง แต่ไม่มีเทศบัญญัติบังคับในเรื่องดังกล่าว จึงทำได้เพียงการว่ากล่าวตักเตือนและถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น

ส่วนที่มีการจับกุมและดำเนินคดีต่อนั้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานแล้วว่าชายทั้ง 2 คน เป็นต่างด้าวและลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จึงต้องจับกุมดำเนินคดีในข้อหาต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ซึ่งการจับกุมดำเนินคดีดังกล่าวนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่เทศกิจนครเชียงใหม่เลย แต่มีการนำข้อมูลและเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดียอย่างเข้าใจผิด สำหรับหอยขมที่อยู่ในคูเมืองนั้น ไม่ได้เป็นหอยขมตามธรรมชาติ แต่เป็นหอยขมที่มีผู้นำมาปล่อยตามความเชื่อเพื่อสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา และน่าจะค่อนข้างสกปรก ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ลักลอบจับอยู่เป็นประจำและต้องตักเตือนอยู่ตลอด จึงอยากจะตักเตือนไม่ให้มีการจับไปรับประทานเพราะเสี่ยงที่จะได้รับอันตราย

ขณะที่ นายพัธนา คุณชื่น นิติกรเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งร่วมอยู่ในภาพที่ถ่ายไว้เป็นหลักฐานตอนที่ควบคุมตัวชายทั้ง 2 คน และว่ากล่าวตักเตือน เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุทางตำรวจได้เชิญให้ทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาลนครเชียงไปร่วมทำบันทึกจับกุม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีเทศบัญญัติบังคับใช้และลงโทษในเรื่องดังกล่าว จึงทำได้เพียงแค่การว่ากล่าวตักเตือนเท่านั้น เพราะพื้นที่คูเมืองเชียงใหม่เป็นเขตอภัยทานและมีการขอความร่วมมือห้ามจับสัตว์น้ำ ทั้งนี้ในส่วนที่มีการจับกุมดำเนินคดีกับชายทั้ง 2 คนต่อจากนั้น เป็นเพราะตรวจสอบพบว่าเป็นชาวต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย จึงต้องดำเนินคดี ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศบาลนครเชียงใหม่









