
เตือน 2 เขื่อนใหญ่ คือ ขุนด่านปราการชล และเขื่อนนฤบดินทรจินดา ต้องระบายน้ำออกจากเขื่อนเพิ่มส่งผลระดับน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่นครนายก จ่อล้นตลิ่งส่งผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ
วันที่ 29 ส.ค. 2561 ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ รายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำปราจีนบุรีและลุ่มน้ำนครนายก เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและฝนตกสะสมในภาคตะวันออก ทำให้ระดับน้ำในแม่นำสูงขึ้น และมีแนวโน้มล้นตลิ่งในบางพื้นที่
นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า เฉพาะแม่น้ำปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนนฤบดินทรจินดา จ.ปราจีนบุรี และเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ต้องเพิ่มการระบายลงลำน้ำเดิม โดยต้องเฝ้าระวังแม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณอ.กบินทร์บุรี อ.ศรีมหาโพธิ์ อ.เมืองปราจีนบุรี อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี และแม่น้ำนครนายก บริเวณ อ.องครักษ์ จ.นครนายก คลองพระปรง จ.สระแก้ว ที่น้ำสูงกว่าตลิ่ง
ส่วนเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ปริมาณน้ำ 199 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 89% ปริมาณน้ำไหลเข้าวันละ 14.51ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้น 8.42 ล้านลบ.ม. มีปริมาณน้ำไหลอออก 9.37 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้น 2.31 ล้าน ลบ.ม. น้ำไหลผ่านทางระบายน้ำล้นสูง 1.65 ม.เพิ่มขึ้น 1.19 ม. โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการแจ้งเตือนพื้นที่ริมแม่น้ำที่จะได้รับผลกระทบทราบอย่างต่อเนื่อง
ขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจและรับผิดชอบที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศ และตลอดเร่งดำเนินกำรบริหารจัดการน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่น้อยที่สุด และประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง










