ชาวบ้านไอเดียเก๋เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสร้างเป็นรูปทรงเรือนไทยคล้ายศาลาการเปรียญในวัด พร้อมแต่งภายในด้วยลายกนก ดึงดูดสายตา ปชช. จนอดแวะไม่ได้
วันที่ 6 ก.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดยโสธรมีซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อ “ปิ่นวันนา” รูปทรงแปลกไม่เหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ตัวอาคารรูปทรงคล้ายศาลาการเปรียญภายในวัด ลักษณะของหลังคามีจั่วเป็นชั้นๆ อยู่หลายชั้นเหมือนหลังคาอุโบสถ นอกจากนี้ ยังมีการตกแต่งภายในและลวดลายตัวหนังสือเป็นลายกนก โดยเฉพาะลวดลายตามเสา ส่วนภายในตัวอาคารจะเป็นห้องโถงกว้างเพื่อทำเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ด รวมทั้งวัสดุก่อสร้าง มองดูแล้วคล้ายอยู่ภายในวัดจนเป็นที่แปลกตาของประชาชนที่ผ่านไปมาต้องแวะเข้าไปเยี่ยมชมพร้อมกับอุดหนุนซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยซูเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนเจ้าเสด็จ ปากทางเข้าบ้านนาสะไมย์ ตำบลนาสะไมย์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
นายขุนแผน ปิ่นวันนา เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตรูปทรงคล้ายศาลาวัด
นายขุนแผน ปิ่นวันนา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 13 บ้านนาสะไมย์ ตำบลนาสะไมย์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เจ้าของซูเปอร์มาร์เก็ตรูปทรงคล้ายศาลาการเปรียญวัด บอกว่า ตนมีความรู้และเชี่ยวชาญในการเป็นช่างแกะสลักและแกะลายตามศาลาการเปรียญวัด รวมทั้งแกะลายตามประตูหน้าต่างอุโบสถ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาแกะสลักมาจากผู้เป็นตาที่ได้สอนวิชาความรู้ให้ตั้งแต่ตนอายุ 11 ขวบ จากนั้นก็ฝึกฝนเรื่อยมาจนเกิดความชำนาญ และหลังเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะฐานะทางบ้านยากจน จึงได้ใช้ความรู้เรื่องการแกะสลักออกหารับจ้างแกะลายตามวัดต่างๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนี้
ต่อมาเมื่อปี 2558 ตนต้องการให้ภรรยามีอาชีพและมีรายได้ จึงคิดที่จะเปิดเป็นร้านซูเปอร์มาร์เก็ต และได้ลงทุนก่อสร้างอาคารรูปทรงคล้ายศาลาการเปรียญวัดขึ้นมา เนื่องจากตนมีความชื่นชอบงานด้านศิลปะอยู่แล้ว ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปี ก็เสร็จ ลงทุนไปประมาณ 6-7 ล้านบาท แต่ถ้าว่าจ้างช่างคนอื่นทำคงต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ขนาดของอาคารกว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร และได้เปิดร้านซูเปอร์มาร์เก็ตมาได้ครบ 1 ปี พอดี
ภายหลังก่อสร้างเสร็จก็มักจะมีประชาชนที่ผ่านไปมารู้สึกแปลกตา และจะแวะเข้าไปเที่ยวชมพร้อมกับอุดหนุนซื้อของภายในร้านอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตตนยังมีแนวคิดที่จะต่อเติมตกแต่งบริเวณร้านซูเปอร์มาร์เก็ตของตนด้วยลวดลายไทยตามจุดต่างๆ โดยรอบอีกด้วย เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปะการแกะสลักเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ชมต่อไป
