ประเด็นคือ – วัดท่าไคร้ จ.เชียงใหม่ ผุดไอเดียสร้างรูปปั้นสองกุมภัณฑ์ยุค 4.0 สวมผ้าใบคอนเวิร์ส-รองเท้าแตะ ส่งสัญญามือไอเลิฟยู เฝ้าหน้าเจดีย์ เผยเป็นกุศโลบายดึงคนรุ่นใหม่เข้าวัด
วันที่ 7 ม.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รูปปั้นยักษ์กุมภัณฑ์สองตนที่เฝ้าอยู่บริเวณทางขึ้นพระธาตุเจดีย์รัตนธรรมพิเนต ภายในวัดท่าไคร้ ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กำลังกลายเป็นจุดเช็กอินให้กับชาวบ้านและนักท่องเที่ยว เนื่องจากยักษ์กุมภัณฑ์ทั้งสองตนไม่เหมือนกับที่อื่นๆ
เพราะมีเครื่องแต่งกายที่แปลกแหวกแนว เข้ายุคเข้าสมัย โดยยักษ์ตนซ้ายสวมรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สสีแดง ส่วนยักษ์ตนขวาสวมรองเท้าแตะ พร้อมกับทำมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยู ตั้งตระหง่านเฝ้าอยู่หน้าบันไดทางขึ้น สู่ที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปหยกขาวและพระเจ้าทันใจด้านบนเจดีย์ ซึ่งหลายคนที่มาพบต่างชื่นชอบกับรูปปั้นยักษ์ยุคใหม่
พระอาจารย์ไกรสร กิตติเวที รองเจ้าอาวาสวัดท่าไคร้ เล่าแนวคิดว่า ยุคปัจจุบันโลกความทันสมัยได้เข้ามาแทนที่สิ่งเดิม คนยุคใหม่ชอบถ่ายภาพไปอวดกันในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะกับสิ่งแปลกใหม่ ทางวัดจึงเลือกนำศิลปะแบบโบราณมาประยุกต์กับศิลปะสมัยใหม่ เพื่อดึงดูดให้พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน ให้เข้าวัดกันมากขึ้น เมื่อดึงเข้ามาได้แล้วก็จะได้ซึมซับหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาที่แฝงไว้ตามจุดต่างๆ ในวัด
กุมภัณฑ์ที่ทำท่าไอเลิฟยู เป็นการสื่อความหมายให้ประชาชนรักสามัคคีกันและรักในพระพุทธศาสนา ส่วนที่สวมรองเท้าผ้าใบสีแดงคอนเวิร์สเป็นยี่ห้อที่วัยรุ่นนิยม ก็เพื่อต้องการดึงดูดให้กลุ่มวัยรุ่นรวมทั้งนักท่องเที่ยวเข้ามาที่วัด
นอกจากนี้ รอบพระธาตุยังมี 12 นักษัตรทรงเจดีย์ ไว้รอบองค์พระธาตุเจดีย์ เป็นการนำศิลปะล้านนาเชียงใหม่และลำพูนมาผสมผสานกัน โดยองค์พระธาตุอยู่บนหลังนักษัตรด้วย
ส่วนชั้นล่างของพระธาตุเจดีย์ มีจิตกรรมฝาผนังยุคใหม่ เป็นภาพวาดประวัติองค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่การประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน รวมทั้งมหาเวสสันดรชาดก ซึ่งมีการสอดแทรกตัวหมีแพนด้า โดราเอมอน และปิกาจู เข้าไปในภาพวาดอย่างกลมกลืน เพื่อให้เด็กอยากเรียนรู้ในพระพุทธศาสนาและอยากเข้าวัดมากขึ้น
โดยพระธาตุเจดีย์องค์นี้ ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2558 ใช้งบประมาณทั้งหมด 18 ล้านบาท และจะมีงานสมโภชเพื่อบรรจุเป็นถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนา ในวันที่ 30 มกราคม นี้
