ป.ป.ส.-สธ. ร่วมตรวจกัญชาของกลางพบสารปนเปื้อนปริมาณมาก สามารถนำไปสกัดน้ำมันกัญชาบริสุทธิ์ได้เพียง 7 กิโลกรัม เตรียมส่งกัญชาให้โรงพยาบาล 3 แห่ง และมหาวิทยาลัยอีก 8 แห่ง
วันที่ 7 มิ.ย.2562 วานนี้ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายแพทย์พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการตรวจพิสูจน์หาสารปนเปื้อนในกัญชาของกลางกว่า 22 ตัน ก่อนนำไปสกัดน้ำมันกัญชาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ และเพื่อการศึกษาวิจัย
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ป.ป.ส. ได้ประสานหน่วยจับกุมให้ชะลอการเผาทำลายกัญชาของกลางเพื่อขอคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนจากกัญชาของกลางรวม 43 คดี หนัก 22 ตัน ล่าสุดรับเข้ามาตรวจสอบ 18 ตันนั้น ผลการตรวจหาสารเคมีเบื้องต้นพบว่ามีกัญชา 2 ตันสามารถนำไปใช้วิจัยและพัฒนาได้ แต่มีเพียง 7 กิโลกรัมที่นำไปใช้สกัดทางการแพทย์ได้ ซึ่งภายในช่วงกลางเดือนมิถุนายนนี้จะมีการพิจารณาแจกจ่ายให้กับโรงพยาบาล 3 แห่ง และมหาวิทยาลัยอีก 8 แห่ง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวิจัยและพัฒนา โดยห้ามไม่ให้บริษัทต่างชาติเข้ามายุ่งเกี่ยวเด็ดขาด ส่วนกัญชาของกลางที่เหลือพบมียาฆ่าแมลง, สารโลหะหนักปนเปื้อนเกินมาตรฐานจนไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
สำหรับมาตรฐานในการตรวจตัวอย่างกัญชาทั้ง 38 ตัวอย่าง ได้ใช้มาตรฐาน iso17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในการตรวจหาสารเคมีและสารปนเปื้อน แบ่งการตรวจเป็น 2 แบบ คือ ตามมาตรฐานทั่วไปตามประกาศคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับการหาหาสารกำจัดศัตรูพืชในผักผลไม้ จำนวน 25 รายการ แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ หายาฆ่าแมลง และตรวจหาโลหะหนักเช่น แคดเมียม ที่มีผลกระทบต่อกระดูก สารหนู มีผลต่อทางเดินอาหาร ปรอท และตะกั่ว มีส่วนให้เกิดมะเร็งพบว่าทั้ง 38 ตัวอย่าง ไม่ผ่านมาตรฐาน
ขณะที่นพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้นำตัวอย่างไปสุ่มตรวจหาสารปนเปื้อน 62 ชนิดตามมาตรฐานสากล เมื่อได้ผลออกมาจึงนำไปอิงกับมาตรฐานอาหาร ผัก ผลไม้ พบว่าทั้ง 38 ตัวอย่างไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เมื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเห็นว่าควรปรับมาใช้มาตรฐานตำรับยาสมุนไพรไทย พบว่า 1 ตัวอย่างสามารถใช้ประโยชน์ได้ โดยตัวอย่างกัญชาที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ จะดำเนินการนำส่งแก่สถาบันศึกษา และโรงพยาบาลที่ขอใช้ประโยชน์ จำนวน 2.3 ตัน ส่วนของกลางที่ตรวจแล้วเกินมาตรฐานจำนวน 16 ตัน จะนำไปเผาทำลายทิ้งตามระเบียบต่อไป
