ปลัด พณ.พร้อมทบทวน ‘เอฟทีเอ’ ไทย-จีน หากได้ไม่คุ้มเสีย

ปลัด พณ.พร้อมทบทวน ‘เอฟทีเอ’ ไทย-จีน หากได้ไม่คุ้มเสีย

การนำเข้าผักและผลไม้จากจีนตามกรอบการค้าเสรี หรือ FTA สินค้าทางการเกษตรบางชนิดจีนไม่ต้องเสียภาษี ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พร้อมที่จะทบทวนข้อตกลงเอฟทีเอ หากข้อตกลงดังกล่าวเสียประโยชน์มากกว่าได้

วันที่ 9 ก.ค.2562 รศ.อัทธ์ พิศาลวาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การนำเข้าผักและผลไม้จากจีนในตลาดอาเซียนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยเติบโตปีละร้อยละ 5-10 เนื่องจากข้อตกลงเอฟทีเอระหว่างอาเซียนและจีน ซึ่งนอกจากส่งผลกระทบต่อราคาผักและผลไม้ไทย อาชีพเกษตกรไทย รวมไปถึงข้อกังวลว่าอาจจะมีสารตกค้าง ดังนั้นไทยจะต้องเตรียมตัวรับมือ โดยการจำกัดปริมาณการนำเข้าและเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพผักและผลไม้ที่นำเข้าเช่นเดียวกับที่จีนเข้มงวดการนำเข้าจากไทย ไทยต้องให้ความสำคัญในการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

รศ.อัทธ์ พิศาลวาณิชย์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

ขณะที่นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร กล่าวว่า ข้อตกลงเอฟทีเอที่ทำไว้ สามารถทบทวนได้ หากพิจารณาแล้วว่าข้อตกตกลงดังกล่าวมีผลเสียมากกว่าผลดี หากจะมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีการชดเชย เราต้องมาดูน้ำหนักผลกระทบที่เกิดขึ้นมากน้องเพียงไร สิ่งที่ต้องชดเชยจะดำเนินการอย่างไร คุ้มหรือไม่

บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้ ความตกลงเอฟทีเอส่งผลให้มูลค่าการส่งออกสินค้าผักและผลไม้จากไทยไปจีน ขยายตัวก้าวกระโดด โดยในปี 2561 มูลค้าส่งออกอยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวจากปี 2545 ซึ่งเป็นปีก่อนที่จีนจะยกเว้น ภาษีให้ไทยถึงร้อยละ 1,312 และในช่วง5 เดือนแรก ของปี 2562 สินค้าผักและผลไม้ไทยยังคงขยายไปตลาดจีนมากกว่านำเข้า โดยสินค้าผักส่งออกสำคัญ คือ มันสำปะหลัง พืชตระกูลถั่ว ผักแห้ง ส่วนผลไม้ไทยถือเป็นผลไม้ที่จีนนำเข้าสูงสุดเป็นอันดับ 3 โดยนิยมนำเข้า ทุเรียน ลำไย มังคุด และมะพร้าวอ่อน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง