คุณภาพอากาศในกทม.และปริมณฑลกลับมาย่ำแย่อีกครั้ง พบ 5 จุดอันตราย ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แนะลดเวลาอยู่กลางแจ้ง หรือสวมหน้ากาก N 95 และลดการใช้รถยนต์
สถานการณ์คุณภาพอากาศ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เช้าวันที่ 11 ม.ค. พบจุดอันตราย ที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน 5 จุดอันตราย ประกอบด้วย
1 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง
2 ริมถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน
3 ริมถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง
4 ริมถนนดินแดง เขตดินแดง
5 ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
กรมควบคุมมลพิษ ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกประเภท และงดการใช้รถยนต์ควันดำอย่างเด็ดขาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นรถยนต์ควันดำจากรถยนต์ดีเซล สามารถแจ้งได้ที่
1. รถเมล์หรือรถบรรทุกควันดำ โปรดแจ้งสายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584
2. รถเมล์ ขสมก. ควันดำ โปรดแจ้งสายด่วน ขสมก. 1348
3. รถยนต์ควันดำ โปรดแจ้งที่ แฟนเพจ “นิธิธร จินตกานนท์” ผู้บังคับการตำรวจจราจร หรือสายด่วน 1197
4. สายด่วนกรุงเทพมหานคร โทร 1555
5. แฟนเพจ “กรมควบคุมมลพิษ” หรือสายด่วน 1650
ติดตามข้อมูลออนไลน์ http://aqicn.org/city/bangkok กรมควบคุมมลพิษ http://aqmthai.com/aqi.php กรุงเทพมหานคร http://bangkokairquality.com แอพพลิเคชั่น Air4Thai
สำหรับสถานการณ์คุณภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีนักของกรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐานมาตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 20 ธ.ค. 2561 บางวันที่มีฝนตกลงมาชะล้างก็ทำให้คุณภาพอากาศกลับมาดีขึ้นบ้าง แต่จนถึงขณะนี้สถานการณ์คุณภาพอากาศในช่วงหน้าหนาว ที่อากาศปิด ลมนิ่งเช่นนี้ยังคงต้องติดตามเป็นรายวัน
สำหรับข้อแนะนำในการปฏิบัติตัวของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ควรลดระยะเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ขณะอยู่กลางแจ้ง หากมีอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ดังต่อไปนี้ โรคทางเดินหายใจ, โรคเยื่อบุตาอักเสบ, โรคผิวหนัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด
ข้อแนะนำสำหรับประชาชนกลุ่มเสี่ยง
- พักผ่อนอยู่ในบ้าน
- เตรียมยาให้พร้อม
- ใช้หน้ากากกันฝุ่น
- รีบพบแพทย์ หากมีอาการ
สำหรับประชาชนทั่วไป ควรลดระยะเวลาออกกำลังกาย หรือทำงานหนักกลางแจ้ง หมั่นสังเกตอาการหากเกิดอาการแสบคอ แน่นหน้าอก หายใจติดขัด รีบพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
