
นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กรม สบส. เผยผลการประชุมหารือการเจาะเลือดโดยผู้ประกอบวิชาชีพอื่น เห็นชอบให้พยาบาลเจาะเลือดได้ แต่ต้องพิจารณารายละเอียดให้สอดคล้องกับข้อยกเว้นของกฎหมายเทคนิคการแพทย์ และต้องแก้ไขข้อจำกัดและเงื่อนไขของวิชาชีพพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสูง ตามกฎหมายวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์
วันที่ 30 เม.ย.2562 จากกรณีที่สภาการพยาบาลได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบใน “ร่างข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยการเจาะเก็บตัวอย่างเลือด พ.ศ. ……” เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์สามารถเจาะเก็บตัวอย่างเลือดที่ใช้ในการตรวจวิเคราะห์ และรับฟังความคิดเห็นจากสภาเทคนิคการแพทย์

นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การประชุมหารือการเจาะเลือดโดยผู้ประกอบวิชาชีพอื่นที่จัดขึ้นวานนี้ โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากสภาการพยาบาลและคณะกรรมการสภาการพยาบาล สภาเทคนิคการแพทย์และคณะกรรมการสภาเทคนิคการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข กองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ มาร่วมปรึกษาหารือเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์
เบื้องต้น เห็นชอบในหลักการสมควรให้ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ สามารถเจาะเก็บตัวอย่างเลือดได้ แต่ควรพิจารณารายละเอียดเนื้อหาข้อบังคับอีกครั้งหนึ่งเพื่อให้สอดคล้องกับข้อยกเว้นของการประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ตามพระราชบัญญัติเทคนิคการแพทย์ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งจะต้องมีการแก้ไขข้อจำกัดและเงื่อนไขของวิชาชีพพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นสูง ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 และที่แก้ไขเพิ่มเติมก่อน ซึ่งที่ประชุมจะนำข้อสรุปดังกล่าวนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาต่อไป
“เชื่อว่าผลลัพธ์จากการประชุมในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณสุขประเทศให้ก้าวไปอย่างมั่นคง จากการระดมความคิด หาข้อสรุปที่เหมาะสมระหว่างหน่วยงานและบุคลากรในแวดวงสาธารณสุข ซึ่งต่างมีความมุ่งมั่นที่จะให้บริการสาธารณสุข อย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยมุ่งผลสุดท้ายเพื่อประชาชนสุขภาพดี ตามภารกิจของกระทรวงสาธารณสุข” นพ.ณัฐวุฒิ กล่าว

ก่อนหน้านี้มีข้อถกเถียงกันเกี่ยวข้องกับการเจาะเลือดในการให้บริการในสถานพยาบาลเคลื่อนที่ โดยผู้ประกอบโรคศิลปะหรือผู้ประกอบวิชาชีพอื่น ซึ่งไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ซึ่งสภาเทคนิคการแพทย์ The medical technology council ได้ออกมาชี้แจงพร้อมระบุว่า กรณีสถานพยาบาลเอกชนออกให้บริการตรวจสุขภาพให้แก่พนักงานบริษัท มิใช่การทำเพื่อช่วยเหลือแพทย์ในการรักษาโรค เพราะการตรวจสุขภาพให้แก่พนักงานบริษัทเป็นการประเมินภาวะสุขภาพก่อนที่จะมีการเจ็บป่วย แม้จะได้มีการแก้ไขข้อบังคับสภาการพยาบาลว่าด้วยข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ในเรื่องการเจาะเลือดแล้ว ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาลก็ไม่สามารถกระทำการเจาะเลือดเพื่อประเมินสภาวะสุขภาพได้ เนื่องจากไม่มีกฎหมายให้อำนาจกระทำได้ไว้ในกรณีนี้









