‘ศิริกัญญา’ ชำแหละงบฯ ปี 67 ซัดรัฐบาลโกงสูตรปรับจีดีพี รวมเงินเฟ้อเข้าไปด้วย ชี้ไม่มีประเทศไหนทำกัน เย้ยนี่หรือรัฐบาลที่เคยมีชื่อเสียงด้านเศรษฐกิจ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชำแหละ งบฯ ปี 67 โดยตอนหนึ่งได้กล่าวถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นเรือธง อย่าง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ที่ระบุว่า จะใช้เงินจาก พ.ร.บ.เงินกู้ 500,000 ล้านบาท และพ.ร.บ. รายจ่ายประจำปีอีก 100,000 ล้านบาท แต่ในงบฯ ปี 67 ไม่มีงบฯ เพื่อทำดิจิทัลวอลเล็ต แม้แต่บาทเดียว ขณะที่งบกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่งใส่มาสดๆ ร้อนๆ 15,000 ล้านบาท เมื่อ 29 พ.ย. 66 หลังปรับปรุงงบครั้งที่ 1 สรุปแล้วต้องลุ้นพึ่ง พ.ร.บ.เงินกู้ อย่างเดียวแล้วใช่หรือไม่ และต้องเพิ่มยอดเงินกู้ เพื่อทำทั้งดิจิทัลวอลเล็ต และกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ ใช่หรือไม่ ซึ่งถ้าหากออกพ.ร.บ.เงินกู้ไม่ได้ งบกระตุ้นเศรษฐกิจก็จะกลายเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจทิพย์
ขณะที่ วิกฤติแบบใดทำไมงบกลาโหมเพิ่มขึ้น ย้อนช่วงต้นยำกุ้ง งบกลาโหมลดลง 21% วิกฤติแฮมเบอร์ ลดลง 10% ช่วงโควิดลด 5% แต่ในวิกฤติของรัฐบาลเศรษฐา เพิ่มขึ้น 2% นอกจากนี้ เงินชดใช้เงินคงคลังสูงเป็นประวัติการณ์ เกือบ 20,000 ล้านบาท งบผูกพันปี 360,000 ล้านบาท เป็นมรดกที่ ‘ประยุทธ์’ ดาวน์ ‘เศรษฐา’ ต้องมาผ่อนต่อ ถ้าไม่จัดการ จะพันแข้งพันขา
พร้อมเปิดงบประมาณฉบับประชาชน ปีงบประมาณ 2567 ที่จัดทำโดยสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี เห็นตัวเลขการขยายตัวของจีดีพี โต 5.4% ระบุ ตนตกใจมาก ว่าจะต้องแพ้พนันแล้วไปบวชชีหรือไม่ เพราะแพ้พนันประธานวิปฝ่ายค้าน (ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล) ที่ว่าถ้าเศรษฐกิจโต 5% เมื่อไหร่ ตนจะลาไปบวชชี
“แต่พอดูไปดูมา เมื่อกี้นี้เล่มขาวคาดม่วง (รายงานภาวะเศรษฐกิจและการคลังฯ) ก็บอกว่าโต 3.2% ทำไมอยู่ดีๆ เล่มงบประมาณฉบับประชาชน ถึงโต 5.4% แล้วก็มาถึงบางอ้อ เพราะนี่คือการเติบโตของจีดีพีที่ไม่ได้รวมผลของเงินเฟ้อ ปกติทุกประเทศทั่วโลกเวลาคำนวณอัตราการเจริญเติบโตของจีดีพีเขาจะใช้จีดีพีที่ไม่รวมผลของเงินเฟ้อ แต่รัฐบาลกำลังโชว์ตัวเลขที่รวมผลของเงินเฟ้อ เท่ากับว่านี่รัฐบาลกำลังจะบรรลุเป้าหมายจีดีพีโต 5% ในปีแรกที่เข้ามาบริหาร โดยการโกงสูตรปรับจีพีดี แบบนั้นเหรอคะ มันไม่เคยมีประเทศไหนทำมาก่อนนะคะ นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกรู้ดีไม่มีใครทำแบบนั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว ประเทศที่เงินเฟ้อสูงอย่างซิมบับเว เงินเฟ้อ 220% จีดีพีปีต่อปีนี่คือโต 2 เท่าเลยนะคะ ก็ขอร้องว่าอย่าโกงสูตรเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามเป้าหมาย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าวตอนหนึ่ง
น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวว่า ตนไม่เห็นอะไรในร่างพ.ร.บ.งบฯ ปี 67 นอกจากมันเป็นบทพิสูจน์ว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพ
“นี่หรือคือรัฐบาลที่สืบทอดชื่อเสียงกันมาว่าเก่งด้านเศรษฐกิจ นี่หรือรัฐบาลที่ขึ้นชื่อว่าหาเงินได้ ใช้เงินเป็น กลับผิดพลาดในการจัดงบประมาณได้มากขนาดนี้ ทั้งตั้งงบฯ ไว้ไม่เพียงพอ จะตั้งใจไม่ตั้งใจ ประมาณการรายได้ก็ผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัย และก็ไม่คิดที่จะแก้ มุ่งแต่จะใช้กลไกนอกงบประมาณในการบริหารประเทศและก็ไม่สนใจ ในเรื่องของภาระทางการคลัง ดิฉันคิดว่ามันคงถึงเวลาที่ประชาชนคงต้องคิดใหม่ กับฝีมือการบริหารราชการของพรรคเพื่อไทย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าวทิ้งท้าย










