กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจง 19-25 ก.พ. 67 ยังไม่ร้อนปรอทแตก ชี้เดือน มี.ค.- เม.ย. ถึงจะร้อนของจริง คาดแตะ 43-45 องศาฯ
กรมอุตุนิยมวิทยา ชี้แจงข่าวสัปดาห์นี้อากาศจะร้อนจัดว่า หลายคนยังตื่นตระหนกกับข่าว “ร้อนปรอทแตก” พยากรณ์อุณหภูมิสูงสุด 19-25 ก.พ. นี้ จากภาพวิเคราะห์สภาพอากาศระหว่าง วันที่ 19-25 ก.พ. นี้ ซึ่งสภาพอากาศในช่วงเวลา 13.00 น. ของแต่ละวัน โดยพบว่า กราฟแสดงสภาพอากาศนั้นอยู่ในโซนสีแดงไปถึงดำ ซึ่งหมายถึงสภาพอากาศร้อนจัดนั้น ขอชี้แจงว่า จากข้อมูลแบบจำลองบรรยากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่า ปีนี้จะร้อนแรงกว่าปีที่แล้ว 1-2 องศาเซลเซียส
ช่วงที่ร้อนถึงร้อนจัดจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน เป็นช่วงที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ซึ่งในช่วงสัปดาห์หน้า (19-25 ก.พ.67) ผลผลิตจากแบบจำลองฯ ได้แสดงให้เห็นว่าจะเป็นช่วงที่ประเทศไทยตอนบน จะเริ่มมีอุณหภูมิสูงขึ้น (เว้นแต่ทางภาคเหนือตอนบน อีสานตอนบน ยังมีอากาศเย็นและยังมีอากาศหนาวตาม ยอดดอย ยอดภู) แต่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล จะเริ่มสะสมความร้อน และคาดว่าช่วงปลายเดือนนี้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทาง
โดยปกติอุณหภูมิสูงสุดมักจะเกิดขึ้นช่วงเวลา ประมาณ 4 โมงเย็น (เว้นแต่วันที่มีฝน) อุณหภูมิสูงสุดช่วงสัปดาห์หน้าในบริเวณดังกล่าวประมาณ 35 – 38 องศาเซลเซียส และบางวันยังอาจจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น ดังนั้นอุณหภูมิในช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดูอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และคาดว่าฤดูร้อนปีนี้อากาศจะร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดอาจจะสูงถึง 43-45 องศาเซลเซียส ได้บางจังหวัด (แต่จะทำลายสถิติเดิมได้หรือไม่ต้องติดตาม)
โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล เนื่องจากจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมแทน และช่วงที่ผ่านมาบริเวณประเทศไทยมีฝนตกน้อย ทำให้ความชื้นในอากาศมีน้อย (อากาศแห้ง)
ดังนั้นจึงต้องเฝ้าระวังโรคที่มากับความร้อน และยังต้องติดตามพายุฤดูร้อนเป็นระยะๆ ที่คาดว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้น ทำให้มีลมกระโชกแรง ฟ้าผ่า บางครั้งอาจมีลูกเห็บ อาจเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ ซึ่งหากเกิดพายุฤดูร้อนปีนี้ อาจมีความรุนแรงกว่าปกติเนื่องจากอากาศที่ร้อนจัดในปีนี้














