
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “เบบินคา” ใน 3 จังหวัด จนท.เร่งระบายน้ำออกต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย
วันที่ 27 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน “เบบินคา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17–27 สิงหาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เพชรบูรณ์ หนองคาย นครพนม บึงกาฬ และเพชรบุรี รวม 65 อำเภอ 271 ตำบล 1,494 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 28,180 ครัวเรือน 93,392 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 8 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 3 จังหวัด รวม 17 อำเภอ 87 ตำบล 754 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 13,227 ครัวเรือน 38,875 คน ได้แก่ นครพนม น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.นาแก อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า อ.นาทม และ อ.บ้านแพง รวม 36 ตำบล 395 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,354 ครัวเรือน 9,434 คน

ปัจจุบันระดับน้ำโขงเพิ่มขึ้น บึงกาฬ น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองบึงกาฬ อ.บุ่งคล้า อ.โซ่พิสัย อ.ปากคาด อ.ศรีวิไล อ.บึงโขงหลง อ.เซกา และ อ.พรเจริญ รวม 44 ตำบล 340 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,376 ครัวเรือน 27,393 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 41,338 ไร่ ปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำโขงลดลง เพชรบุรีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด และ อ.บ้านแหลม รวม 7 ตำบล 19 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 497 ครัวเรือน 2,048 คน ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีมีแนวโน้มลดลง

ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป









