
วันนี้ (29 มี.ค. 61) ธนาคารกรุงไทย จะเป็นธนาคารล่าสุด ที่ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียม สำหรับบริการธุรกรรมดิจิทัล นี่คือสิ่งที่ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ จากการต่อสู้กันของธนาคารในยุคสังคมไร้เงินสด
ไม่มีค่าธรรมเนียม กำลังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะเอามารับมือกับบริการพร้อมเพย์ ที่ในขณะนี้มีผู้ใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ พูดง่ายๆ คือ ถ้าซื้อใจลูกค้าได้ ก็ยังมีโอกาสต่อยอดธุรกรรมอื่นได้อีกในอนาคต
ผลพวงจากนโยบายสังคมไร้เงินสด ส่งผลให้มีผู้สมัครพร้อมเพย์แล้ว 39 ล้านเลขหมาย ทำธุรกรรมผ่านพร้อมเพย์ 127 ล้านรายการ หรือคิดเป็นเงิน 5 แสนล้านบาท
นโยบายส่งผลโดยตรงให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมการเงินสำคัญ 5 ประเภท เช่น โอนข้ามเขต โอนต่างธนาคาร การเติมเงินต่างๆ จ่ายบิล และกดเงินโดยไม่ใช้บัตร หากใช้แอปพลิเคชั่นของธนาคาร

ธนาคารไทยพาณิชย์ เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม โดยคาดการณ์ภายในครึ่งปีแรกจะได้ยอดผู้ใช้งานไม่ต่ำกว่า 8 ล้านราย จากเป้าหมายสิ้นปีนี้ที่ 10 ล้านราย
ด้าน ธนาคารกสิกรไทย ได้ประกาศ “ฟรีค่าธรรมเนียม” สำหรับบริการ “โอน เติม จ่าย” ซึ่งเป็นบริการที่ลูกค้ารายย่อย และลูกค้าผู้ประกอบการบริการนิยมใช้จากฐานลูกค้าที่มีกว่า 14.5 ล้านราย
ขณะที่ ธนาคารกรุงไทย เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป โดยผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ระบุว่า ฟรีค่าธรรมเนียมบริการใช้บริการเเบบดิจิทัล มีผลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมในระยะแรก แต่เชื่อว่าจะจูงใจทำให้ประชาชนหันไปใช้บริการแบบโมบาย แบงกิ้ง มากขึ้น เเละช่วยลดการใช้เงินสดได้อีกทางหนึ่ง

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ปีนี้ธนาคารกรุงไทยจะต้องปรับกลยุทธ์ เเละเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการให้ทันต่อการเปลี่ยนเเปลง ที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล ที่มีทางเลือกมากขึ้น
ส่วนผู้ใช้บริการยอมรับว่า การฟรีค่าธรรมเนียมจูงใจให้หันไปใช้แอปพลิเคชั่น พร้อมระบุว่าไม่กังวลเรื่องความปลอดภัย
แนวโน้มปริมาณธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าการลดค่าธรรมเนียมดังกล่าว จะทำให้มีปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 6,000 ล้านรายการ ภายในกลางปีนี้









