
วันที่ 30 ต.ค. ที่โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์รางน้ำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานสัมมนา “โรดแมป 5G ดันไทยนำอาเซียน” โดยมี รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเข้าร่วม
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในนามรัฐบาลยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นความร่วมมือร่วมใจอย่างเข้มแข็ง ของกระทรวงดิจิทัลฯ กสทช. และภาคเอกชน รวมถึงผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม สมาคม ธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและภาคประชาชน ที่มีความตื่นตัวถือเป็นกลไกสำคัญที่มีพลังขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G ทำให้รัฐบาลมีความมั่นใจว่า 5G จะเกิดขึ้นในปี 2563 ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากโลกปัจจุบันทั้งภาคการเงิน การธนาคาร การผลิต การเกษตร โลจิสติกส์และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้หลอมรวมไปสู่ยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล ด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมมากขึ้น

พล.อ.ประวิตร กล่าวด้วยว่าเทคโนโลยี 5G ยังเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาทางสังคมช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การศึกษา การแพทย์ สาธารณสุขและการยกระดับสวัสดิการทางสังคมโดยเทคโนโลยีจะเชื่อมประสานระหว่างสังคมเมืองกับสังคมชนบทอย่างไร้พรมแดน ประชาชนจะมีรายได้เพิ่มขึ้น มีการเข้าถึงทางการแพทย์ การรักษาพยาบาลผ่านทางไกลเท่ากับเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนอย่างแน่นอนตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว. ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า การเกิดเทคโนโลยี 5G ในประเทศไทยจะทำให้เราทัดเทียมกับนานาชาติที่ประกาศตัวและมีแผนที่จะดำเนินการ ทั้งเป็นที่ทราบกันว่า ต้นปี 2563 ประเทศเวียดนามได้ประกาศแล้วว่าจะเริ่มต้น เทคโนโลยี 5G ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็จะใช้เทคโนโลยี 5G ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในโลกที่จะเริ่มต้นนำเทคโนโลยี 5G มาใช้เพื่อ จูงใจนักลงทุนในประเทศเพราะเทคโนโลยี 5G จะช่วยพัฒนาประเทศในด้านต่างๆทั้งอุตสาหกรรม การแพทย์ การเกษตร โลจิสติกส์ และอื่นๆ
ซึ่งรัฐบาลไทยได้ประกาศไปแล้วว่าจะเริ่มใช้ 5G ภายในปี 2563 เชื่อว่าการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนเวทีนี้ จะเห็นความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี 5G ในไทย เพราะทุกคนมีประสบการณ์สามารถให้คำแนะนำได้ว่า ไทยควรทำอะไร จึงจะนำเทคโนโลยี 5G มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาประเทศจนกลายเป็นผู้นำอาเซียน ที่มีส่วนช่วยเหลือสังคมได้มากกว่าการเป็นเครือข่ายโมบายหลักเท่านั้น









