บชน. วางกำลังตำรวจ 9 กองร้อยดูแลผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม เตือนกลุ่มคาร์ม็อบ หากทำผิดอาจยึดรถ

บชน. วางกำลังตำรวจ 9 กองร้อยดูแลผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม เตือนกลุ่มคาร์ม็อบ หากทำผิดอาจยึดรถ

บชน. วางกำลังตำรวจ 9 กองร้อย กระจายดูแลความเรียบร้อย เน้นทำเนียบรัฐบาลเป็นหลัก รับมือกลุ่มผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม ย้ำเตือนกลุ่ม ‘คาร์ม็อบ’ หากทำผิดอาจยึดรถ
วันที่ 3 ก.ค. 2564) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. แถลงเตรียมความพร้อมดูแลสถานการณ์การชุมนุมและแผนเส้นทางการจราจรวันนี้
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า แนวทางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุมมีการประกาศเชิญชวน 2 กิจกรรม คือ กลุ่มประชาชนคนไทย ประกาศรวมตัวบริเวณแยกอุรุพงษ์มาหยุดที่สะพานชมัยมรุเชฐ และกลุ่มไทยไม่ทน ประกาศการชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ เคลื่อนที่มาหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยห้ามชุมนุมบริเวณดังกล่าวเด็ดขาด จะมีการตั้งแนวป้องกัน
ส่วนม็อบสมบัติทัวร์ขับรถบีบแตร กรณีที่มีการขับรถเป็นขบวนมีลักษณะกีดขวางจราจรสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน หรือเกิดอันตรายมีความผิดขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตามพ.ร.บ.ทางบกฯ พนักงานสอบสวนอาจยึดรถไว้เป็นของกลางการกระทำผิด โดยจะมีการบันทึกภาพและเสียง รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝากเตือนการกระทำเช่นนั้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังไว้ 9 กองร้อย ยืนยันว่าเตรียมกำลังไว้ตามสถานการณ์และการข่าวเพียงพอ เน้นบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นหลัก
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการกับผู้ชุมนุมว่า กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มคณะราษฎรเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการรวมตัวช่วงเวลา 16.00 น. เคลื่อนตัวมาที่สะพานชมัยมรุเชฐ มีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ, พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ, พ.ร.บ.ความสะอาด, พ.ร.บ.การใช้เครื่องกระจายเสียงพ.ร.บ.โรคติดต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้กระทำผิดทุกราย ขอแจ้งเตือนว่าห้ามมีการชุมนุม เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจนำเชื้อโรคดังกล่าวไปติดครอบครัวและถูกดำเนินคดีได้
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า นอกจากกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ยังมีกลุ่มใช้รถขับไปโดยใช้ถนนราชดำเนินกลาง จึงส่งผลกระทบกับประชาชน เบื้องต้นจะไม่ปิดการจราจร โดยจะจัดการจราจรให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด โดยจะเริ่มในเวลา 16.00 น. ถนนราชดำเนินกลาง เวลา 17.00 น. ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยขอให้หลีกเลี่ยงการจราจรตั้งแต่เวลา 14.00 น.
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการสร้างการรับรู้ และมีการเตือนให้ทราบว่าอะไรที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย อะไรที่เป็นสิทธิและหน้าที่ แต่อย่าลืมว่าแม้จะมีสิทธิตามกรอบและกฎหมาย แต่สิทธิของท่านจะต้องไม่กระทบกับการใช้ชีวิตปกติสุขของคนอื่น ซึ่งนับตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 ได้ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 200 คดี ทั้งนี้มีการแจ้งเตือน หากยังมีเจตนากระทำความผิด จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง