
รมว.คมนาคม ระบุ ผลการศึกษารถไฟความเร็วสูงไทย-ญี่ปุ่น มีผลตอบแทนโครงการค่อนข้างสูง คาดหากเป็นตามแผนจะก่อสร้างได้ในปี 2565
วันที่ 9 ก.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมระหว่างกระทรวงคมนาคม และกระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – เชียงใหม่
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ญี่ปุ่นได้ส่งผลการศึกษาช่วงแรกกรุงเทพฯ – พิษณุโลก แล้ว โดยรูปแบบเป็นรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 380 กิโลเมตร มีสถานีหลักๆ เช่น สถานีดอนเมือง ลพบุรี นครสวรรค์ พิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก

ส่วนผลการสำรวจเรื่องผลตอบแทนของโครงการ กรณีที่รวมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 14.7 ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูง แต่ต้องดูเงื่อนไขการพัฒนาเมืองและการพัฒนารอบสถานี
โดยไทยขอให้ญี่ปุ่นไปขยายความว่า โอกาสในการพัฒนาเมืองตามเส้นทางมีมากน้อยแค่ไหน คาดว่าจะทราบในอีก 2-3 เดือน
สำหรับรูปแบบการลงทุนมีหลายรูปแบบ แต่การตัดสินใจว่าใช้รูปแบบใดต้องดูเรื่องผลตอบแทนและภาระของโครงการ เบื้องต้นจากการคำนวณ รัฐสามารถลงทุนเองได้ หรืออาจลงทุนกับเอกชนได้ แต่ก็ต้องดูเงื่อนไขและการรับภาระความเสี่ยงในอนาคต

ทั้งนี้ จะเสนอโครงการให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบภายในสิ้นปีนี้ แต่หากโครงการก่อสร้างเป็นไปตามแผน คาดว่าจะก่อสร้างในปี 2565 ส่วนราคาค่าโดยสารจะใช้อัตราที่ไม่แตกต่างจากจีน
ส่วนความคืบหน้ารถไฟไทย – จีน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ โดยจะมีการฝึกอบรมวิศวกรและสถาปนิกผู้ออกแบบ ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 22 กันยายนนี้
การก่อสร้างจะเริ่มได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับผลอีไอเอ หากผ่านในเดือนตุลาคม ก็จะสามารถเริ่มการก่อสร้างในเดือนพฤศจิกายนนี้









