ผู้นำออสเตรเลียไม่สนงานวิจัย ยืนยันทำเหมืองถ่านหินต่อไป อ้างยังขายได้ในตลาดโลก

นายกฯ ออสเตรเลียโต้งานวิจัยเรื่องสภาพอากาศ ย้ำทำตามความต้องการในตลาดโลก เชื่อมีเทคโนโลยีที่ทำให้ใช้ถ่านหินอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

วันที่ 9 ก.ย. 2021 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกรัฐมนตรี สกอตต์ มอร์ริสัน ของออสเตรเลีย ออกมาปฏิเสธผลการวิจัยที่แนะให้หยุดทำการขุดถ่านหินเพิ่ม เพื่อลดผลกระทบต่อโลกจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง โดยยืนยันว่าจะยังคงทำเหมืองขุดทรัพยากรที่สามารถขายได้ในตลาดโลกต่อไป

ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยผลการศึกษาบนวารสาร Nature ที่ระบุว่า หากมนุษย์ปล่อยให้ 60% ของน้ำมันดิบ และ 90% ของถ่านหินที่มีอยู่ โดยไม่ไปยุ่งกับมัน อาจจะมีโอกาส 50-50 ที่อุณหภูมิของโลกจะสูงขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ภายในปี 2050

ส่วนออสเตรเลียที่เป็นผู้ส่งออกถ่านหินอันดับ 1 ของโลกนั้น จะต้องลดการขุดลง 95% เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว

ขณะที่ เซลวิน ฮาร์ต ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ในด้านสภาพอากาศ ได้ออกมาเรียกร้องให้ออสเตรเลียหันมาสนใจเรื่องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้มากขึ้น 

ผู้แทน UN ย้ำว่า ทางสหประชาติเข้าใจดีว่าถ่านหินและพลังงานฟอสซิลเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจออสเตรเลีย แม้ว่าการทำเหมืองจะมีสัดส่วนเพียง 2% ของการจ้างงานทั้งหมดในออสเตรเลียก็ตาม

ในเรื่องนี้ นายกฯ มอร์ริสันออกมายืนยันว่า การส่งออกพลังงานของออสเตรเลียเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับประเทศกำลังพัฒนา พร้อมกับคาดการณ์ว่าในอนาคต จะมีเทคโนโลยีที่สามารถทำให้ใช้ถ่านหินได้เป็นมิตรกับสภาพอากาศมากขึ้น

ผู้นำออสเตรเลียกล่าวว่า จะยังคงขุดทรัพยากรที่สามารถขายได้ในตลาดโลกต่อไป โดยคาดว่าในอนาคต ความต้องการในการใช้อาจเปลี่ยนแปลงไป

ปัจจุบัน หลายประเทศเริ่มหันมาเน้นการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่หันกลับมาสนใจในเรื่องนี้อีกครั้ง หลังจากที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.