อยุธยา ประกาศ 6 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ พร้อมเร่งช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม กว่า 2 หมื่นครัวเรือน
นายวีระชัย นาคมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา แจ้งสถานการณ์น้ำ วันที่ 16 กันยายน 2565 เวลา 06.00 น. ปริมาณน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ไหลผ่าน C13 ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,948 ลบ.ม./วิ เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 50 ลบ.ม./วิ ระดับน้ำที่ C35 บ้านป้อม พระนครศรีอยุธยาระดับตลิ่ง 4.35 ม. ระดับน้ำ 4.47 ม. ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 3 ซม.
ในส่วนปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระดับน้ำที่สถานี S.26(เขื่อนพระรามหก) อ.ท่าเรือ ระบาย 511 ลบ.ม/วิ ระดับตลิ่ง 8 ม. ระดับน้ำ 5.96 ม. ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม/วิ สถานี S.5 (สะพานปรีดี-ธำรง) อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับตลิ่ง 4.70 ม. ระดับน้ำ 3.53 ม. ระดับน้ำลดลงจากเมื่อวาน 2 ซม.
ทั้งนี้ มีประชาชนได้รับผลกระทบน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือน รวม 6 อำเภอ 85 ตำบล 508 หมู่บ้าน 5 ชุมชน 22,323 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตร 3,418 ไร่ ดังนี้
1. อำเภอเสนา 8 ตำบล 65 หมู่บ้าน 3,872 ครัวเรือน
2. อำเภอผักไห่ 11 ตำบล 76 หมู่บ้าน 2,984 ครัวเรือน
3. อำเภอบางบาล 16 ตำบล 99 หมู่บ้าน 5,301 ครัวเรือน
4. อำเภอบางไทร 23 ตำบล 114 หมู่บ้าน 4,047 ครัวเรือน
5. อำเภอพระนครศรีอยุธยา 14 ตำบล 69 หมู่บ้าน 1,887 ครัวเรือน
6. อำเภอบางปะอิน 13 ตำบล 83 หมู่บ้าน 4,232 ครัวเรือน
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ แล้ว จำนวน 6 อำเภอ 82 ตำบล 475 หมู่บ้าน 4 ชุมชน รวมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนแล้ว โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำสูบน้ำออกจากพื้นที่การเกษตร ให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ (นาข้าว) รวมกว่า 50 เครื่อง สูบน้ำสะสม 28 วัน ปริมาณน้ำสะสม 7,600,000 ลบ.ม.
และจัดตั้งผนังกั้นน้ำและวางกระสอบทรายในเขตพระราชฐาน โบราณสถาน และพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แจกจ่ายถุงยังชีพให้พี่น้องประชาชน รวมทั้งสิ้น 7,148 ชุด ตลอดจนดูแลรักษาสุขภาพผู้ประสบภัย ผู้ป่วยติดเตียง กลุ่มเปราะบางอื่นๆ พร้อมทั้งแจกจ่ายยา Whitfield ป้องกันโรคที่มากับน้ำให้กับผู้ประสบภัยแล้ว 10,640 ตลับ










