‘ชัชชาติ’ ลงพื้นที่เขตธนบุรี ร่วมกับ ว่าที่ ส.ก. พรรคประชาธิปัตย์และเพื่อไทย ตรวจสอบปัญหาการจราจรติดขัดหนักจากความล่าช้า ก่อสร้างอุโมงค์รัชดา-ราชพฤกษ์ ชี้ กทม. ต้องเร่งคืนพื้นผิวการจราจร พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชน

วันที่ 24 พ.ค. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่เขตธนบุรีสำรวจปัญหาการจราจรติดขัด และโครงการก่อสร้างอุโมงค์รัชดา-ราชพฤกษ์ ร่วมกับ นายจิรเสกข์ วัฒนมงคล ว่าที่ ส.ก. เขตธนบุรี พรรคเพื่อไทย และ นายวิรัช คงคาเขตร ว่าที่ ส.ก. เขตบางกอกใหญ่ พรรคประชาธิปปัตย์ ซึ่งโครงการก่อสร้างอุโมงค์รัชดา-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการของ กทม. ที่มีความล่าช้ากว่า 600 วัน ที่ผ่านมามีการขยายสัญญาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีความคืบหน้า ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดเรื้อรัง เนื่องจากการก่อสร้างกินพื้นผิวจราจร ทำให้ไม่สามารถสัญจรได้สะดวก
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ยังมีโครงการก่อสร้างอีก 14 โครงการของ กทม. ที่มีปัญหาความล่าช้า และส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงโครงการของหน่วยงานอื่นที่เข้ามาดำเนินการใน กทม. เช่น โครงการของการทางพิเศษในการทำถนนพระรามสอง และสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการทำรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีชมพู และสายสีเหลืองของ รฟม. และ โครงการของการไฟฟ้านครหลวงที่เข้าทำสายไฟฟ้าลงดินที่มีปัญหาเรื่องการปิดคลุมถนนที่ไม่เรียบร้อยทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

สำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าว นายชัชชาติ ชี้ว่า เบื้องต้น กทม. จะต้องเข้าไปเร่งรัดในการคืนพื้นผิวถนนเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัด ส่วนการเร่งรัดโครงการต่างๆ ก็ต้องทำอย่างเร็วที่สุด แต่ต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนว่ามีผลประโยชน์แอบแฝงกับผู้ใดหรือกลุ่มใดหรือไม่ ย้ำว่า ความล่าช้าไม่ควรจะเกิดขึ้น เนื่องจากการทำสัญญาต้องมีการคิดคำนวณระยะเวลามาอย่างดีแล้ว และยิ่งเป็นการล่าช้าในระดับเท่าตัว ชี้ให้เห็นว่าต้องมีบางสิ่งที่ผิดปกติ แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกับประชาชน

“สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเอา 14 โครงการมาดูว่าเกิดเหตุอะไร มันสุดวิสัยหรือไม่ มันมีประเด็นอะไร เพราะสุดท้ายแล้วคนที่เสียผลประโยชน์คือประชาชน รวมถึงการคืนพื้นที่ของรถไฟฟ้า ต้องเอาจริงเอาจัง ถึงแม้จะไม่ได้แก้รถติดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นการแก้ส่วนหนึ่งของปัญหาที่ทำให้คนเดินทางลำบากขึ้น” นายชัชชาติ ระบุ

ภาพจาก : ทีมงานชัชชาติ










