‘ชัยวุฒิ’ ชนหมัด ‘ชัชชาติ’ ชื่นมื่น บอกไม่กล้าแขวะรุ่นพี่ เดินหน้าจัดระเบียบสายสื่อสารในกทม. 800 กม. 16 เขต ภายในปีนี้
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชนหมัดกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายหลังประชุมหารือหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดระเบียบสายสื่อสาร รกรุงรัง ในพื้นที่กทม.
โดยนายชัยวุฒิ กล่าวว่า เรื่องการจัดระเบียบสายสื่อสาร นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงดีอีเอส ทำงานร่วมกับ กสทช. โดยตั้งงบประมาณมาให้แล้ว 700 ล้านบาท ซึ่งวันนี้จะทำเพิ่ม 800 กิโลเมตร ในพื้นที่กทม. ส่วนการนำสายลงใต้ดิน ท่อบางส่วนเป็นของกทม. บางส่วนของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (NT) บางส่วนต้องทำใหม่ ซึ่งการที่จะสร้างใหม่ ฟุตบาลก็เป็นของกทม. ดังนั้นจะตั้งคณะทำงาน เพื่อให้ กทม., โอเปอร์เรเตอร์ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) วางแผนทำงานร่วมกัน เนื่องจากการนำสายลงใต้ดิน มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า 10 เท่า
นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ในอนาคตจะมีการออกประกาศ ต่อไปนี้ใครจะมาพาดสาย โดยไม่มีใบอนุญาตจาก กสทช. ไม่ได้ ที่ผ่านมามีการลักลอบพาดสาย อย่างน้อยลดการเพิ่มสายที่ผิดกฎหมายบนสายไปด้วย ทั้งนี้ การไฟฟ้าก็มีแรงจูงใจ เพราะเกิดเหตุไฟไหม้ที่หม้อแปลง ส่วนหนึ่งจากที่ไฟลามในชนวนสายสื่อสาร ตนคิดว่า ตอนนี้เป็นจังหวะเหมาะสมที่สุดแล้ว ที่จะสะสางเรื่องนี้
นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ยังชี้แจงปมดราม่า ถึงการให้สัมภาษณ์ของตนทำนอง รัฐบาลประชาสัมพันธ์ไม่เก่งเท่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ระบุว่า “รู้จักกันอยู่แล้ว เป็นรุ่นพี่ (วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ไม่มีอะไร ชื่นชมว่าเป็นคนเก่ง ประชาสัมพันธ์เก่ง เราต้องไปศึกษา แล้วนำมาทำตาม ท่านที่ทำไว้ดีแล้ว ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย” ส่วนที่มีคนมองว่าเหมือนเป็นการแขวะนั้น นายชัยวุฒิ กล่าวว่า “ไม่ใช่ ผมไม่กล้าหรอก เพราะท่านเป็นรุ่นพี่ผม ที่พูดนั้นดีนะจิตใจดี ไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องคิดแบบนั้น”
ต่อมา นายชัยวุฒิ และนายชัชชาติ ได้ลงพื้นที่ดูโครงการท่อร้อยสายใต้ดินของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ NT ที่ ถนนสุรศักดิ์ เขตบางรัก จากนั้น นายชัชชาติ เดินทางไปร่วมประชุมกับ กสทช.
สำหรับงบประมาณดำเนินการ ระยะทาง 800 กิโลเมตร ที่ใช้งบประมาณ 700 ล้านบาทนั้น จะมาจากงบประมาณของ กสทช. ปี 2564 -2565 ที่มาจากกองทุนกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือกองทุน USO ของสำนักงาน กสทช. โดยบอร์ด กสทช. ได้อนุมัติให้ดำเนินการมาแล้ว ก่อนหน้านี้ และตามแผนงาน จะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่ติดขัดในช่วงที่ผ่านมา อาจยังไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการเท่าที่ควร จึงทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินงาน ซึ่งขณะนี้ คืบหน้าเพียง 25 -30% เท่านั้น โดยภายในสัปดาห์นี้ สำนักงาน กสทช. จะเชิญผู้ประกอบการสายสื่อสาร และ กฟน. มาร่วมหารือ เพื่อเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จได้ทันตามที่ ผู้ว่าฯ กำหนดกำหนดสิ้นปีนี้
