‘ภาพลักษณ์’ สำคัญกว่าความจริง? ทรราชสู่พระเอก Bon Appétit, Your Majesty ซีรีส์เกาหลีปรุง ปวศ. เข้ากับสังคมสมัยใหม่

‘ภาพลักษณ์’ สำคัญกว่าความจริง? ทรราชสู่พระเอก Bon Appétit, Your Majesty ซีรีส์เกาหลีปรุง ปวศ. เข้ากับสังคมสมัยใหม่

หากใครได้ดู Bon Appétit, Your Majesty (폭군의 셰프) หรือ เมนูรักพิชิตใจราชา ซีรีส์ทาง Netflix ก็น่าจะหลงรัก กษัตริย์อีฮอนในเรื่อง ที่แม้จะดูดุ และถูกบันทึกว่าเป็นทรราชสุดโฉด ด้วยข่าวลือบังคับให้หญิงสาวถวายตัว คลั่งรักสนมที่เป็นอดีตกีแซง (นางโลม) จนไม่สนใจบริหารบ้านเมือง แต่สุดท้ายก็กลายเป็นผู้ชายที่มีมุมอ่อนโยน และการกระทำของเขาก็มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง จนสมควรแก่การที่นางเอกและคนดูจะตกหลุมรักไปทั่วโลก

 

แต่นี่พล็อตซีรีส์ ที่ต่างจากหน้าประวัติศาสตร์เกาหลี ‘กษัตริย์อีฮอน’ ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างไรกันแน่

[‘ยอนซันกุน’ กษัตริย์ทรราช ตัวจริงของพระเอกอย่างอีฮอน]

Bon Appétit, Your Majesty  ดัดแปลงมาจากต้นฉบับที่เป็น Web Novel หรือ นิยายออนไลน์ เรื่อง Surviving as Yeonsangun’s Chef (연산군의 셰프로 살아남기)  เขียนโดยพัคกุกแจ 

โดยพระเอกในนิยาย ใช้ชื่อจริง และภาพจำของ ยอนซันกุน (연산군) กษัติย์องค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์โชซอน ซึ่งครองราชย์ในช่วงในช่วงรอยต่อเข้าสู่คริสต์ศตวรรษที่ 16 ระหว่างปี ค.ศ. 1494–1506 ส่วนในซีรีส์ใช้ชื่อสมมติ อย่าง ‘อีฮอน’ แทน

ยอนซันกุน เป็นกษัตริย์ที่ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายที่สุดคนหนึ่งของเกาหลี เทียบกับประเทศไทย ก็อาจจะคล้ายกับพระเจ้าเสือ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุ และเมื่อมองเค้าโครงในซีรีส์ ก็ดูจะสอดคล้องกับชีวิตจริงของยอนซันกุน ตามที่ถูกบันทึก ก็ดูมีที่ดูพระองค์จะเหมือนจะมีปมในใจ เพราะ พระราชินียุน (폐비윤씨) พระราชมารดาแท้ๆ ถูกประหารตั้งแต่ยังเด็ก เขาเติบโตขึ้นมาโดยคิดว่าพระราชินีจองฮยอน (정현왕후) เป็นแม่แท้ๆ จนได้รู้ความจริงภายหลัง ว่าแม่ที่แท้จริงของตัวเอง ถูกประหารด้วยยาพิษ หลังจากที่ถูกเนรเทศ เพราะมีพฤติกรรมรุนแรงและอารมณ์แปรปรวน 

เมื่อได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ และทราบความจริง พระเจ้ายอนซัน จึงพยายามจะคืนพระอิสริยศักดิ์ของพระมารดาในภายหลัง แต่กลับถูกต่อต้าน พระองค์จึงสั่งประหาร ผู้ที่พระองค์เห็นว่าเกี่ยวข้องกับการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา บ้างก็ลงมือด้วยพระองค์เอง เช่น บัณฑิตฝ่ายซาริม ในการกวาดล้างบัณฑิตครั้งที่หนึ่ง และครั้งที่สอง พระอัยยิกาของพระองค์เอง คือสมเด็จพระพันปีหลวงอินซู และสนมของพระบิดาสองคน ก็ถูก ยอนซันกุน ทุบตีจนถึงแก่ความตาย

ทว่า ปมในใจอาจจะไม่สามารถนำมาเป็นเหตุของความดุร้าย ที่ขึ้นชื่อลือชาของพระองค์ได้ทั้งหมด เพราะนอกจากการตามล้างแค้น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของพระมารดาแล้ว ด้วยในรัชสมัยของพระองค์ ยังมีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความคิดเห็นและการศึกษา โดยสั่งปิดมหาวิทยาลัยซองกยุนกวาน และเปลี่ยนสถานที่ดังกล่าวให้เป็นสถานเริงรมย์ของตัวเอง รวมถึงแบนการใช้ตัวอักษรฮันกึล เมื่อสามัญชนเขียนวิจารณ์พระองค์ในประกาศสาธารณะ 

โดยการแบนตัวอักษรเกาหลีอย่างฮันกึล เท่ากับว่า แทบมีแค่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่จะอ่านออกเขียนได้ เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่ อ่านตัวฮันจา ที่มาจากอักษรจีนไม่ออก นอกจากนี้ ยอนซันกุน ยังมีการสั่งอพยบประชาชน 20,000 คน เพื่อนำพื้นที่มาล่าสัตว์ และ ‘แชฮง’ (채홍제도) หรือกระบวนการคัดเลือกสนม ที่มีการสั่งให้จับตัวหญิงสาวนับพันมาให้ความบันเทิง โดยไม่สนว่าผู้จะแต่งงานแล้วหรือไม่

รายละเอียดความโหดร้ายเหล่านี้ ถูกพูดถึงอยู่เรื่อยๆ ตลอดซีรีส์ Bon Appétit, Your Majesty อย่างที่ตอนต้นของเรื่อง นางเอกอย่าง  จองจียอน ได้เจอกับ กิลกึม ที่จะมาเป็นลูกมือหลักของเธอ ระหว่างที่เทำงานในห้องเครื่องแห่งวังหลวง 

โดยภูมิหลังแล้ว กิลกึม หลบหนีการโดนจับเข้าวัง ไปอยู่ในบ้านที่ทิ้งร้างในเขต ‘กึมพโย’ (금표) ซึ่งห้ามใครเข้า เพราะสงวนไว้ให้ความบันเทิงสำหรับกษัตริย์เท่านั้น ความโหดร้ายเช่นนี้ ทำให้ ยอนซันกุน ในบันทึกประวัติศาสตร์ ถูกโค่นล้มโดยกลุ่มขุนนาง และข้าราชการหลังจากครองราชย์ได้ 12 ปี พระอนุชาต่างมารดาที่อายุน้อยกว่า ถูกยกขึ้นมาแทนที่ และสิ้นพระชนม์หลังจากถูกเนรเทศได้สองเดือน ส่วนพระโอรสทั้ง 5 และพระธิดาคนเดียวของพระองค์ที่เกิดกับ พระมเหสีชิน (제인원덕왕비) ผู้ถูกลดยศภายหลังเป็นพระชายาคอชาง รวมถึงลูกชายกนอกสมรส 2 คน และลูกสาวนอกสมรสอีก 1 ที่เกิดกับกีแซงนั้นก็เสียชีวิตตั้งแต่เกิดหรือสิ้นใจหลังถูกเนรเทศ

นอกจากพระนามจะถูกจารึกไว้ในฐานะ ‘ยอนซันกุน’ ซึ่งแปลว่า เจ้าหรือเจ้าชายยอนซัน แทนที่จะเป็น ‘พระเจ้ายอนซัน’ เพราะถูกปลดจากตำแหน่ง ยิ่งกว่านั้น ประวัติศาสตร์ก็ยังบันทึกว่า พระองค์เป็นกษัตริย์ที่โหดร้ายที่สุดองค์หนึ่งของโชซอน โดยความโหดร้ายเหล่านี้ก็ถูกนำมาเล่าขานซ้ำๆ ผ่านสื่อ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ เช่น The King and the Clown หรือ The Treacherous เป็นต้น 

ซึ่งแม้จะน่าสงสารบ้าง แต่ก็ไม่ใกล้เคียงกับการเป็น ‘พระเอก’ ของ Bon Appétit, Your Majesty ที่ทั้งน่ารักและมีมุมอ่อนหวาน จนมัดใจคนดูอยู่หมัดเช่นนี้ 

[ กษัตริย์เกาหลี ถูก ‘Rebrand’ ผ่านละคร? ]

แน่นอนว่าที่เกาหลีใต้ สามารถนำเอาเรื่องราวประวัติศาสตร์ มาเขียนใหม่ขนาดนี้ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกาหลีใต้ เป็นสาธารณรัฐอย่างเต็มตัว แต่ เดวิด เอ. ทิซซาร์ด (David A. Tizzard) ผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกด้านเกาหลีศึกษา และเป็นอาจารย์ผู้บรรยายที่ Seoul Women’s University และ Hanyang University ชี้ประเด็นหนึ่งไว้อย่างน่าสนใจ

เขามองว่า ซีรีส์และภาพยนตร์ย้อนยุคของเกาหลีนั้น เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สะท้อน และกล่อมเกลาคนในสมัยนี้ มากกว่าที่จะเป็นภาพแทนที่ซื่อตรงต่อประวัติศาสตร์ โดยได้ให้ความเห็นไว้ชวนถกเถียง ผ่านบทความ Time to look back at Korea’s history ใน The Korea Times ระบุว่า

‘ประวัติศาสตร์ถูกนำมาฉาย โลดแล่นในจอ และประเทศนี้ก็นำประวัติศาสตร์นั้นมาบรรยายใหม่ ตามความต้องการของสังคมร่วมสมัย’

ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็น ซีรีส์และภาพยนตร์เกาหลีมากมาย ที่นำประวัติศาสตร์มาบอกเล่า แต่ใส่มุมมองของปัจจุบันเข้าไป อย่าง Mr. Queen ที่นำเอากษัตริย์ที่ถูกบันทึกไว้ว่า ‘อ่อนแอ’ เป็นหุ่นเชิด มาเขียนใหม่ให้เป็นกษัตริย์ที่คมในฝัก เพราะต้องเอาตัวรอด ด้วยการแกล้งโง่

โดยเพิ่มตัวละคร และองค์ประกอบความแฟนตาซี อย่างการที่เชฟหนุ่มข้ามเวลามาอยู่ในร่างพระมเหสี ก่อนจะสอดแทรกประเด็นการข้ามเพศเข้าไว้อย่างแนบเนียน ด้วยการที่ ‘นางเอก’ ของเรื่อง ใจเป็นชายกายเป็นหญิง แต่ก็สามารถรักกับ ‘พระเอก’ ได้อย่างไม่ติดขัด 

รวมถึง Bon Appétit, Your Majesty เอง ก็สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมปัจจุบัน คือ การที่ผู้ชายต้องเป็นสุภาพบุรุษ เพิ่มความเข้าอกเข้าใจในมนุษย์ ว่าความเลวร้ายนั้นมักจะมีที่มาเสมอ และมนุษย์ทุกคนก็มีมุมที่ดี ควรค่าแก่การได้รับความรัก แม้จะเลวร้ายเพียงใด 

สะท้อนแนวคิดของชาวเกาหลีที่ เดวิด เอ. ทิซซาร์ด นิยามไว้ว่า ‘การนำเสนอภาพ (representation) นั้นสำคัญกว่าความจริง’

สิ่งนี้ยังถูกสะท้อนผ่านทางกฎหมาย ที่เอื้อให้ฟ้องคนที่นำประวัติศาสตร์มาบอกเล่า หากผู้ที่เกี่ยวข้องรู้สึกว่า สิ่งที่กล่าวถึงทำให้บุคคลนั้นๆ เสื่อมเสียชื่อเสียงในทางใดทางหนึ่ง ทั้งยังฟ้องได้ถึงขั้นจำคุก หรือ เนรเทศออกจากประเทศได้เลย ไม่ว่าสิ่งที่พูดจะเป็นเรื่องจริง หรือบุคคลนั้นจะตายไปแล้วก็ไม่สำคัญ เพราะ ‘กฎหมายและสังคมเกาหลี เลือกที่จะให้คุณค่ากับ ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ ของบุคคล มากกว่าความจริงของเรื่องราวใดๆ’

[ เปลี่ยนความเข้าใจในประวัติศาสตร์ ด้วยกลยุทธ์ความบันเทิง ]

คงปฏิเสธได้ยากว่า เกาหลีใต้ นอกจากจะใช้ซีรีส์กล่อมเกลา และสะท้อนสิ่งที่ขาดไปในสังคมแล้ว ยังใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือ การข่าวระหว่างประเทศ เช่น ในปี 2007 ที่ เกาหลีใต้และจีน มีข้อขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับอาณาจักรโคกูรยอ (고구려) ว่าเป็นอาณาจักรเกาหลีโบราณ หรือเป็นรัฐบรรณาการของจีน 

โดยความขัดแย้งนี้ กลายเป็น ‘สงครามประวัติศาสตร์’ ที่ไม่ได้ต่อสู้ด้วยกำลังทหาร แต่ใช้สื่อบันเทิง อย่างละครพีเรียด ทั้ง จูมง และ ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ หรือ The Legend (태왕사신) ที่มีผู้ชมหลายร้อยล้านคนทั่วเอเชียชื่นชอบ เป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของโคกูรยอในมุมมองเกาหลี

ซีรีส์ย้อนยุคของเกาหลีใต้ จึงไม่เพียงแต่สร้างความบันเทิงเท่านั้น หากยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการ ‘เขียนประวัติศาสตร์ใหม่’ ให้เข้ากับสายตาของสังคมร่วมสมัย หรือสร้างความเข้าใจใหม่ให้กับผู้คน และผลลัพธ์ ของการพลิกภาพกษัตริย์ทรราช อย่างยอนซันกุนให้กลายเป็นตัวละคร ‘อีฮอน’ ผู้มีมิติอ่อนไหว และน่าหลงรักได้สำเร็จ จนกระทั่งนักแสดงอย่าง อีแชมิน มีละครมารุมจ่อรอเสนอบทถึง 30 เรื่อง 

ผู้คนสนุกและรักตัวละคร เสียจนแทบไม่มีใครนึกถึง ความเลวร้ายที่ถูกซ่อนไว้ ผู้ชมแทบจะลับตา สะท้อนให้เห็นพลังที่แท้จริง ของการเปลี่ยนมุมมอง ผ่านทางการนำเสนอภาพ ไม่ว่าภาพนั้นจะมีความจริงอยู่มากน้อยเพียงใด

อ้างอิง

  • https://english.khs.go.kr/html/HtmlPage.do?pg=/royal/RoyalTombs_10_Jeongneung.jsp&mn=EN_02_04
  • https://time.com/7313404/bon-appetit-your-majesty-history/
  • https://www.gqindia.com/content/bon-appetit-your-majesty-know-the-real-story-of-king-yeonsangun-netflix
  • https://altaica.ru/LIBRARY/KOREAN/Jae%20Jung%20Song_The%20Korean%20Language.pdf
  • https://star.ohmynews.com/NWS_Web/OhmyStar/at_pg.aspx?CNTN_CD=A0003165333
  • https://www.koreatimes.co.kr/opinion/20240304/time-to-look-back-at-koreas-history
วาดฝัน Writerวาดฝัน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง