มติครม. เห็นชอบ ร่างงบฯ ปี 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท ร่างพ.ร.บ.ทำประชามติ ส่งต่อสภาฯ
วันนี้ (28 พ.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท
และอนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ตามที่คณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติฯ ได้เสนอมา และให้ส่งต่อคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร หรือวิปรัฐบาล เพื่อเสนอต่อสภาฯ ต่อไป
ทั้งนี้ สาระสำคัญ การแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ
– การกำหนดวันออกเสียงประชามติ โดยอาจกำหนดให้มีการออกเสียงประชามติพร้อมกับกำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือวันเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นได้
– การกำหนดคะแนนเสียงในการทำประชามติ ให้ถือเสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงประชามติ โดยคะแนนเสียงข้างมากต้องมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาออกเสียงประชามติ และต้องสูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความคิดเห็นในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น โดยตัดเงื่อนไขที่กำหนดให้ต้องมีผู้มาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติออก
– กำหนดวิธีการออกเสียงประชามติ โดยให้สามารถกระทำโดยการออกเสียงทางไปรษณีย์ การออกเสียงโดยเครื่องลงคะแนนเสียงอิเล็กทรอนิกส์ ทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือโดยวิธีอื่นได้
– กำหนดหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการให้มีการแสดงความคิดเห็น โดยเมื่อได้ประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติแล้ว
– ให้ กกต. จัดให้มีการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระ และเท่าเทียมกันทั้งผู้ที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบ ในเรื่องที่จัดทำประชามติ โดยการแก้ไขเพิ่มเติมในเรื่องดังกล่าวจะทำให้ประชาชนเกิดความสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เนื่องจากไม่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิหลายครั้ง และสามารถประหยัดงบประมาณแผ่นดินได้มากขึ้น
– นอกจากนี้ การกำหนดให้มีการแสดงความคิดเห็นโดยอิสระและเท่าเทียมกันทั้งผู้ที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบในเรื่องที่จัดทำประชามติ เป็นหลักการที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี และกระตุ้นให้เกิดกระบวนการคิดไตร่ตรองก่อนออกเสียงประชามติ










