กมธ.อุตฯ เสนอ ขนกากแคดเมียม ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ กลับ จ.ตาก จี้รัฐเอาผิดบริษัทต้นทาง

กมธ.อุตฯ เสนอ ขนกากแคดเมียม ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ กลับ จ.ตาก จี้รัฐเอาผิดบริษัทต้นทาง

การเมือง

กมธ.อุตฯ เสนอ ขนกากแคดเมียม ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ กลับ จ.ตาก จี้รัฐเอาผิดบริษัทต้นทาง

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) อุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมในวันนี้ (17 เม.ย. 67) ว่า กมธ. มีความเป็นห่วงกรณีกากแคดเมียม โดยยืนยันว่าขอให้กระทรวงอุตสาหกรรมขนกาก 12,400 ตัน จากทั้งหมด 13,800 ตัน กลับไปฝังกลบโดยบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ป้องกันการฟุ้งกระจาย แม้กระทรวงอุตสาหกรรม ยืนยันว่าจะมีการซีล 2 ชั้น ในระหว่างการขนย้าย ได้มีแผนเผชิญเหตุระหว่างการขนย้ายไว้รองรับแล้ว แต่การบรรจุตู้คอนเทนเนอร์จะทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องการฟุ้งกระจายและส่งผลกระทบต่อประชาชนในระหว่างทาง

ส่วนกรณีลักลอบขุดกากแคดเมียมออกจากบ่อฝังกลบที่โรงงานใน จ.ตาก ออกมานั้น ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) มาดำเนินการสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวข้อง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า มีการอนุญาตให้ขุดกากแคดเมียมขึ้นมาโดยเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรม จ.ตาก ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวน มีหัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นประธานคณะกรรมการฯ รวมทั้งได้โอนคดีจาก บก.ปทส. ไปให้กรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการในส่วนของการเอาผิดทั้งจากบริษัทต้นทางและปลายทาง ยืนยันว่า กมธ. จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปจนจบสิ้นกระบวนการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การต้องยึดกฎหมายเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โดยต้องนำกลับไปฝังกลบที่ จ.ตาก แต่ประชาชนในพื้นที่ไม่เห็นด้วย นายอัครเดช กล่าวว่า คิดว่าประชาชนมีเหตุผลถ้าหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถึงมาตรการการดำเนินการตามหลักกฎหมายและหลักวิชาการ คิดว่าประชาชนคงไม่ต่อต้าน ซึ่งประชาชนหวั่นเกรง เพราะว่า วันนี้ข้อมูลที่ได้รับไม่ชัดเจน จึงเกิดความวิตกกังวล และเชื่อคนที่ออกมาต่อต้าน เพราะวันนี้ กมธ. ได้ซักตัวแทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ถึงการตรวจบ่อกักเก็บฝังกลบกากแคดเมียมทั้ง 7 บ่อ ไม่มีมีการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อม แสดงว่าที่ผ่านมาการกักเก็บกากแคดเมียมดังกล่าวมีความปลอดภัย และขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลจากส่วนราชการ อย่าฟังจากข่าวลือหรือผู้ไม่หวังดี ที่ให้ข้อมูลและต่อต้านในพื้นที่

เมื่อถามถึงการดำเนินคดีกับบริษัทต้นทางเหตุใดยังไม่มีความคืบหน้า นายอัครเดช กล่าวว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ป.ป.ท. เข้าไปดำเนินการแล้ว ส่วนผู้ประกอบการ รมว.อุตสาหกรรมได้มอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหนึ่งชุดและไปร้องเรียนที่ บก.ปทส. แล้ว โดยดำเนินการทั้งที่ ชลบุรี, กทม. และสมุทรสาคร ขณะที่การเอาผิดที่บริษัทต้นทางได้พูดคุยในที่ประชุมกมธ. กันอย่างมากว่า การขุดแคดเมียมขึ้นมาจากแหล่งฝังกลบเป็นการละเมิดกฎหมาย EIA ซึ่งตัวแทนของ สผ. ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเมืองแร่ (ก.พ.ร.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม เห็นพ้องกันว่าเป็นการละเมิด พ.ร.บ.เหมืองแร่, พ.ร.บ.โรงงาน และพ.ร.บ.วัตถุอันตราย ถึงแม้ว่าใบอนุญาตโลหะกรรมจะหมดอายุไปแล้ว (ใบอนุญาตถลุงแร่) แต่มาตรการป้องกันผลกระทบสิ่งแวดล้อมของ EIA ยังคงอยู่และต้องปฏิบัติตาม รวมถึงใบอนุญาตให้ทำโรงงาน (รง.4) ยังคงอยู่ จึงต้องทำตามกฎหมายอีไอเออย่างเคร่งครัด และกากแร่ดังกล่าวถือเป็นวัตถุอันตราย และเป็นการละเมิด พ.ร.บ.วัตถุอันตรายด้วย กมธ. จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูว่าจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทต้นทางในข้อหาอะไรได้บ้าง เพราะละเมิดกฎหมายหลายฉบับ

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง