ทีมแพทย์โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ยืนยันสาเหตุที่ต้องตัดขาหญิงสาวกระบี่ หลังถูกสุนัขกัด เกิดจากสาเหตุ “มะเร็งเนื้อรก” ซึ่งอาจเป็นรายแรกของโลก ไม่เกี่ยวกับบาดแผลถูกสุนัขกัด

กรณี น.ส.ภัทรธวดี นิลอุปถัมภ์ ชาวอำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ ต้องตัดขาทั้งสองข้าง หลังจากถูกสุนัขกัด และ ส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาล 4 แห่ง วันนี้ (17 พ.ค. 62) นพ.เรืองศักดิ์ ลีธนาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อมทีมแพทย์ผู้รักษา ได้ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจง ว่า ทางโรงพยาบาลได้รับคนไข้ต่อจากโรงพยาบาลทุ่งสง เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา พบว่า มีภาวะเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงขาอุดตัน ทีมแพทย์ประเมินเบื้องต้น พบว่า มีภาวะกล้ามเนื้อตายจากการขาดเลือดของขาทั้งสองข้าง แต่กล้ามเนื้อยังไม่ตาย รวมทั้งมีภาวะสารพิษที่เกิดจากการตายของกล้ามเนื้อน่องทั้งสองข้างเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณสูง
แพทย์ได้คุยกับผู้ป่วย เรื่องการผ่าตัดรักษา ว่า จะต้องตัดขาส่วนที่กล้ามเนื้อตาย เพื่อป้องกันภาวะสารพิษที่จะไหลเวียนเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น เพราะอาจจะทำให้เสียชีวิต จึงตัดขานำสิ่งอุดตันออกจากเส้นเลือด โดยผ่าตัด 2 ครั้ง ครั้งแรกตัดขา เพื่อช่วยรักษาชีวิตผู้ป่วยไว้ก่อน ครั้งที่สองตัดแต่งบาดแผลเพื่อหายดีจะใส่ขาเทียมได้
“จากการตรวจชิ้นเนื้อที่อุดตันบริเวณเส้นเลือด พบเป็นชิ้นเนื้อมะเร็งเนื้อรก ชนิดที่มาอุดตันเส้นเลือด เป็นมะเร็งชนิดที่พบได้ยากมาก และอาจจะเป็นครั้งแรกของโลก ที่พบมะเร็งชนิดนี้ และ เป็นเฉพาะในผู้หญิง” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ระบุ
นอกจากนี้ คนไข้เป็นมะเร็งในระยะที่ 4 กระจายไปในเส้นเลือด ปอดขวา และสมอง อยู่ในขั้นรุนแรงมาก จึงเป็นสาเหตุให้แพทย์ต้องตัดขา เพราะไปอุดตันเส้นเลือด ส่วนสาเหตุที่คนไข้ตรวจปัสสาวะ และพบว่า ท้องเกิดจากมะเร็งชนิดนี้ สร้างสารชนิดหนึ่งที่คล้ายกับคนที่ท้อง ทำให้เมื่อตรวจด้วยเครื่องตรวจด้วยตัวเองทำให้เข้าใจผิดว่าท้อง
“ยืนยันว่า การถูกสุนัขกัด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสาเหตุที่ต้องทำให้ถูกตัดขาทั้งสอง ส่วนขาที่ถูกตัดไปแล้วก็ไม่พบอะไร แต่บังเอิญที่ช่วงเวลาที่ถูกสุนัขกัดกับช่วงที่โรคมะเร็งแสดงอาการอยู่ในช่วงเดียวกันพอดี“










