แพทยสภา ออกประกาศแพทยสภา เรื่องไม่ใช้กัญชาในทางที่ผิด ข้อความระบุว่า จากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง 8 หน่วยงานของรัฐเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2565 เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้กัญชา กัญชง ในการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง และไม่ใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหรืออันตราย
และพบว่าหลังจากวันที่ 9 มิ.ย. เป็นต้นมา มีผู้ใช้กัญชาจำนวนมากเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประสาทหลอน ทำร้ายตนเองและผู้อื่น ไปเพิ่มภาระงานที่ห้องฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น และกัญชามีผลกระทบด้านลบต่อการเจริญเติบโตของสมองและพัฒนาการของเด็กในระยะยาวด้วย อีกทั้งกัญชาไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ใช้เพียงบรรเทาอาการชั่วคราวของโรคตามข้อบ่งใช้เท่านั้น
แพทยสภาจึงมีคำแนะนำการใช้และไม่ใช้กัญชา 7 ข้อ ดังนี้
- ใช้เฉพาะสารสกัดกัญชาที่ทราบปริมาณแน่นอน ของสาร CBD และ THC ในการรักษาโรคตามข้อบ่งใช้จากแพทย์ที่ผ่านการอบรม
- ไม่ใช้ กัญชาในลำดับแรกในการรักษาโรค จะใช้เมื่อใช้ยามาตรฐานขนานอื่นแล้วไม่สามารถรักษาหรือควบคุมอาการ/ภาวะของโรคได้
- ไม่ใช้ กัญชาในหญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมบุตร เด็กและเยาวชนอายุไม่เกิน 25 ปี เพราะมีผลต่อพัฒนาการของสมอง
- ไม่ผสมกัญชา/กัญชงลงในอาหารหรือขนม สำหรับให้ประชาชนรับประทาน
- ไม่ใช้ กัญชา/กัญชงเพื่อนันทนาการโดยเด็ดขาด
- ไม่ใช้ ช่อดอกของกัญชา เพราะมีสารเสพติด ซึ่งจะทำให้สุขภาพทรุดโทรมลงได้มาก
- ไม่ใช้ กัญชา/กัญชงโดยเด็ดขาดในประชาชนทั่วไป ที่ไม่ได้มีโรคตามข้อบ่งใช้

- กัญชา มีผลต่อสมองห้ามเด็กและวัยรุ่นต่ำกว่า 20 ปี
ก่อนหน้านี้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสมาคมกุมารประสาทวิทยา (ประเทศไทย) ชมรมจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย ชมรมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็กแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์จุดยืนห่วงผลกระทบกฎหมาย กัญชาเสรี ต่อสุขภาพเด็กและวัยรุ่น พร้อมแนะนำ 5 ข้อ ป้องกันผลกระทบจากกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น ดังนี้
1. เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปีไม่ควรเข้าถึงและบริโภคกัญชา เนื่องจากสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ และกัญชามีสาร THC ที่มีผลต่อสมองเด็กในระยะยาว ดังนั้นเด็กจึงไม่ควรได้รับ THC ยกเว้นกรณีมีความจำเป็นทางการแพทย์เช่น ประกอบการรักษาประคับประคองผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย โรคลมชักรักษายาก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
2. ให้มีการประชาสัมพันธ์กับประชาชนเรื่องโทษของการใช้กัญชากับสมองเด็ก เพื่อให้เกิดความตระหนักต่อการเข้าถึงกัญชาในเด็กและวัยรุ่นเพื่อนันทนาการว่ากัญชาเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติด ส่งผลต่อสุขภาพกายและจิตในระยะเฉียบพลัน และอาจรุนแรงถึงกับชีวิตได้ รวมถึงมีผลกระทบในระยะยาวต่อสมอง ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและการทำงานของสมองที่กำลังพัฒนา
3. ให้มีมาตรการควบคุม การผลิต และขายอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาผสม และให้มีเครื่องหมาย/ ข้อความเตือนอย่างชัดเจนเพื่อป้องกันการใช้ในเด็กและวัยรุ่น โดยระบุ “ห้ามเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริโภค”
4. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรควบคุมการโฆษณาผลิตภัณฑ์ ควบคุมไม่ให้มีการจงใจออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชาเป็นส่วนผสม เช่น ภาพการ์ตูน หรือใช้คำพูดสื่อไปในทางให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารหรือขนมที่เด็กและวัยรุ่นบริโภคได้
5. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามผลกระทบของกัญชาต่อเด็กอย่างต่อเนื่องและจริงจังหลังจากใช้กฎหมายกัญชาเสรี
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย พร้อมเสมอที่จะให้ข้อมูลที่เที่ยงตรงและถูกต้องบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมถึงให้ข้อแนะนำที่เหมาะสมแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาต่อเด็กและวัยรุ่น










