
วันที่ 27 ต.ค. ที่สํานักงานเทศบาลนครอุดรธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ พร้อมด้วย นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ และคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ ประชุม 3 ฝ่ายร่วมกับเกษตรกรและภาคเอกชนหารือแนวทางการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง ปี 2562/63

หลังการประชุมนายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติให้ความเห็นชอบร่วมกันโดยจะมีการประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 2.50 บาท ที่เชื้อแป้งที่ 25% ครอบครัวละไม่เกิน 100 ตัน และจะใช้ราคาตลาดของราคาหัวมันสดที่ลานมันแป้งเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันเป็นตัวเลขราคาอ้างอิงเพื่อกำหนดตัวเลขส่วนต่าง
เกษตรกรทุกรายสามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแจ้งชัดเจนว่าปลูกมันกี่ไร่ จะเก็บเกี่ยวช่วงไหนอย่างไรตามความเป็นจริง กำหนดจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 โดยจ่ายหกงวดในฤดูกาลผลิตปีนี้ คาดวงเงินที่ใช้ร่วมกันประมาณ 9,442 ล้านบาท

“ตั้งใจจะนำเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 12 พ.ย. 2562 ตอนที่คณะรัฐมนตรี ไปประชุมสัญจรที่ จ.กาญจนบุรี เมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบก็จะสามารถจ่ายเงินส่วนต่างแรกในวันที่ 1 ธ.ค. 2562 ” นายจุรินทร์ กล่าว
สำหรับมาตรการเสริมอื่นๆ เช่น ส่งเสริมให้มีการใช้มันสำปะหลังในประเทศมากขึ้นทั้งทำพลาสติกชีวภาพ การนำไปใช้ทำพลังงานในรูปแบบต่างๆ เช่น เอทานอล เป็นต้น และจะมีการส่งเสริมการส่งออกมันสำปะหลังของไทยไปในตลาดต่างประเทศ เช่น ที่ตนได้นำคณะเอกชนไปขายมันสำปะหลังที่จีน เมื่อไม่นานมานี้แล้วประสบความสำเร็จพอสมควรเพราะปีที่แล้วจีนนำเข้ามันจากประเทศไทย 3,000,000 ตัน แต่ที่ไปสามารถขายได้ 2,600,000 ตัน มูลค่าประมาณ 18,000 ล้านบาท

นอกจากตลาดจีนแล้ว ตลาดอินเดียที่เริ่มจะไม่ใช้พลาสติกจริง และใช้วัตถุดิบทางชีวภาพโดยเฉพาะมันสำปะหลังมาทำถุงพลาสติก และทำหีบห่อเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม อินเดียมีประชากร 1,300 ล้านคน หากใช้สิ่งเหล่านี้ทดแทนพลาสติกมหาศาลถือเป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่งสำหรับผู้ส่งออกมันสำปะหลังไทย รวมทั้งจะไปบุกตลาดตุรกีและนิวซีแลนด์ เนื่องจากสองประเทศนี้มีความต้องการใช้อาหารสัตว์จำนวนมากแต่ยังไม่รู้การใช้มันสำปะหลังไปทำเป็นอาหารสัตว์ โดยจะเชิญผู้ผลิตอาหารสัตว์ของตุรกีและนิวซีแลนด์มาดูงานการผลิตด้วยมันสำปะหลังของไทย รวมทั้งตลาดเกาหลีและตลาดอื่นๆ เป็นต้น
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการเรื่องประกันรายได้ให้กับเกษตรกรไปแล้ว 3 ชนิด คือข้าว ปาล์มน้ำมัน และยางพารา คงเหลือ มันสำปะหลังและข้าวโพด ตามที่พรรคประชาธิปัตย์เคยหาเสียงไว้









