เพื่อไทยเปลี่ยนโฉมครั้งใหญ่ นอกจาก ‘แพทองธาร ชินวัตร’ สร้างความฮือฮาเปิดตัวเข้ามาร่วมทำงานกับพรรคแล้ว ยังปรับเปลี่ยน กรรมการบริหารพรรคชุดใหม๋ ‘นพ.ชลน่าน’ ขึ้นแท่นหัวหน้าพรรคอย่างไร้คู่แข่ง พร้อมยืนยันไม่ใช่นอมินีของตระกูลชินวัตร

การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 พรรคเพื่อไทย วันที่ 28 ตุลาคม 2564 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ได้ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อส่งไม้ต่อให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนพรรค ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพรรคเพื่อไทย โดยที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยได้ลงมติเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จำนวน 23 คน ดังนี้
- นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค
- นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรค
- นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค
- นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค
- นายสรวงศ์ เทียนทอง รองหัวหน้าพรรค
- นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค
- นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ รองเลขาธิการพรรค
- นายจิรวัฒน์ ศิริพานิชย์ รองเลขาธิการพรรค
- นางมนพร เจริญศรี รองเลขาธิการพรรค
- นายคุณากร ปรีชาชนะชัย รองเลขาธิการพรรค
- นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค
- นายนพ ชีวานันท์ รองเลขาธิการพรรค
- นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรค
- นางสาวอรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรค
- นายทวีศักดิ์ อนรรฆพันธ์ เหรัญญิกพรรค
- นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนสมาชิกพรรค
- นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค
- นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม กรรมการบริหารพรรค
- นางสาวจิราพร สินธุไพร กรรมการบริหารพรรค
- นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล กรรมการบริหารพรรค
- นายพชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารพรรค
- นางสาวกิตติ์ธัญญา วาจาดี กรรมการบริหารพรรค
- นางสาวธีราภา ไพโรหกุล กรรมการบริหารพรรค
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แถลงภายหลังรับตำแหน่งว่า วันนี้ประเทศชาติกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตโรคระบาด วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตศรัทธาประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชนถูกคุกคาม สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากการไร้ประสิทธิภาพ ไร้วิสัยทัศน์ ขาดความเข้าใจในปัญหาของรัฐบาล ทำให้แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ไม่เข้าไปอยู่ใจกลางของปัญหา แก้ปัญหาแบบขายผ้าเอาหน้ารอด โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงที่จะติดตามมา ส่วนหนึ่งเพราะรัฐบาลนี้ขาดความรู้ ขาดประสบการณ์ ขาดข้อมูลข้อเท็จจริงที่จะใช้ในการแก้ปัญหาจนเกิดความเสียหายซ้ำซาก
“วันนี้พรรคเพื่อไทย ผมและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางทางการเมือง คณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมของพรรคเพื่อไทย พร้อมระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ด้วยประสบการณ์และสติปัญญาที่พวกเราได้รับการสั่งสมจากอดีตตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนจนถึงพรรคเพื่อไทย ผสมผสานกับความสามารถและสติปัญญาอันเป็นเลิศของผู้คนในปัจจุบัน มาเป็นพลังเข้มแข็งนำพาประเทศและพี่น้องก้าวข้ามวิกฤตที่กำลังที่เกิดขึ้น เพื่อไปสู่อนาคตที่สดใสในวันพรุ่งนี้” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว และย้ำว่า การที่เข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ได้เป็นนอมินีของตระกูลชินวัตร เพราะโครงสร้างที่ออกมานั้น คือการเปิดเต็มที่ เลือกตนเข้าและทุกคนเข้ามา และวางโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคมาทำงานร่วมกัน อย่างเช่น ตำแหน่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นการส่งการทำงานแบบรุ่นต่อรุ่น ทุกอย่างเป็นอย่างอิสระ เพราะทุกคนอย่างเห็นการเปลี่ยนแปลง
พรรคเพื่อไทยมุ่งมั่น เอาจุดแข็งของพวกเราคือองค์ความรู้ บวกกับความกระตือรือร้นและมันสมองอันเป็นเลิศของคนรุ่นใหม่ มารวมประสานกันเพื่อหาทางออกและแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตยที่มีระบบเผด็จครอบงำปิดกั้นสมองและความคิดสร้างสรรค์ ไร้สิทธิเสรีภาพที่จะคิด ไร้อิสระที่จะแสดงความเห็น จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะทลายทลวง และระเบิดพลังสมองคนรุ่นใหม่ออกมาเพื่อเป็นประโยชน์ให้ประเทศชาติ
เราจะไม่มีข้อสัญญา แต่เราจะทำงานทันที พรรคเพื่อไทยพร้อมเดินหน้าสานต่อภารกิจตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ให้เป็นไปตามคำขวัญที่ว่า #พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน และ #พรุ่งนี้เพื่อไทย #เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน เราจะเริ่มทันที พรุ่งนี้ไม่ใช่การผลัดวันประกันพรุ่ง แต่พรุ่งนี้หมายถึงอนาคตที่เราจะสร้างในปัจจุบัน เพื่อให้เห็นภาพอนาคตที่แท้จริง
พรรคเพื่อไทย พร้อมทำงานพร้อมกับพี่น้องประชาชนเพื่อนำพาออกจากวิกฤตโดยเร็ว แสดงพลังของพี่น้องตามแนวทางประชาธิปไตย สะท้อนเจตนารมณ์และจะนำเจตจำนงค์ของพี่น้องมาขับเคลื่อนในทุกมิติ ที่สำคัญเราจะทลายอำนาจเผด็จการที่แฝงเร้นอยู่ในรัฐธรรมนูญ ตราบใดผู้ถืออำนาจวันนี้ยังอยู่ก็จะยังมีเผด็จการซ่อนรูปอยู่ พรรคเพื่อไทยมิอาจนิ่งเฉยได้ วันนี้พรรคเพื่อไทย จึงอาสาปลดทุกข์ เพิ่มสุข สร้างอนาคตให้พี่น้อง เราพร้อมแบกรับภารกิจสำคัญด้วยความเต็มใจยิ่ง เพื่อสร้างพรุ่งนี้ เพื่อชีวิตใหม่ที่ดีกว่า เพื่อพี่น้องประชาชน

สำหรับ ‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีประวัติการทำงานและเส้นทางทางการเมืองที่น่าสนใจ ดังนี้
การศึกษา : คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
การทำงาน : เริ่มต้นเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลเวียงสา อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนาหมื่น , โรงพยาบาลนาน้อย และโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จังหวัดน่าน
ประสบการณ์การเมือง : เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดน่าน 5 สมัย
ส.ส.น่าน พรรคไทยรักไทย (2544 , 2548)
ส.ส.น่าน พรรคพลังประชาชน (2550)
ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (2557 , 2562)
อดีตผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (2547)
เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (2548)
อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (2555)
ได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชนในการทำหน้าที่ ส.ส. ในสภาผู้แทนราษฎร ให้เป็น “ดาวสภา” (2552)

(สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพือ่ไทย เพื่อเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน)











