สำนักพุทธฯ ฟันธงแล้ว “เชื่อมจิต” ไม่มีจริง ไม่มีในพระไตรปิฎก ผิดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ชี้ไทยยึดฝ่ายเถรวาทเท่านั้น
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (17 พ.ค. 67) นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ในฐานะคณะทำงานตรวจสอบ กลั่นกรอง ข้อมูล ข่าวสาร และการกระทำอันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา
ร่วมแถลงข่าวกรณีเด็กเชื่อมจิต “อาจารย์น้องไนซ์” หรือ ด.ช.นิรมิต วัย 8 ขวบ ผู้ที่อ้างตนเป็นร่างอวตารองค์เพชรภัทรนาคานาคราช มีความสามารถในการ “เชื่อมจิต” และ “หยั่งรู้” เรื่องราวต่างๆ ทั้งอดีตและอนาคต
นายบุญเชิด ซึ่งเป็นเปรียญธรรม (ป.ธ.) 9 ประโยค กล่าวโดยสรุปว่า พระพุทธศาสนามีความมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะเรามีพระไตรปิฎก การรักษาพระไตรปิฎก คือการรักษาพระพุทธศาสนา ฟันธงว่าการเชื่อมจิตนั้น เมื่อเราศึกษาทุกดีเทลทุกรายละเอียดที่เป็นตัวอักษรอยู่ในพระไตรปิฎกก็ไม่ปรากฏแต่อย่างใด ซึ่งการเชื่อมจิตนั้น นอกจากไม่ปรากฏแล้ว ยังขัดต่อหลักธรรมคุณ 6 ประการ ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้มีดำรัสไว้ให้เราได้ศึกษาปฏิบัติ เพราะว่า ผู้ใดปฏิบัติจะพึงเห็นชัดด้วยตัวเอง ผู้ใดไม่ปฏิบัติ ไม่บรรลุ ผู้อื่นจะบอกก็เห็นไม่ได้ อีกทั้งวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน
นายบุญเชิด กล่าวต่อว่า ในส่วนที่เป็นอนาคามีก็ดี รวมถึงได้แสงสีทองจากพระพุทธเจ้ามาเชื่อมจิตก็ดี และบอกว่าได้รับบัญชาจากพระพุทธเจ้าเพื่อฟื้นฟูศาสนานั้น ทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เราต้องนึกถึงสิ่งที่พระองค์สอนก็คือ พระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาแห่งความจริง เป็นศาสนาแห่งความรู้ เป็นศาสนาแห่งความอิสระ เสรีภาพ เป็นศาสนาเทวนิยม และเป็นศาสนาแห่งสันติภาพ เพราะฉะนั้นเมื่อมีศรัทธา ชาวพุทธจะต้องมีปัญญากำกับเพื่อรู้แจ้งในสิ่งที่คนอื่นบอก
ในการแถลงข่าวดังกล่าวช่วงหนึ่ง นายพิชิต ได้ซักถามนายบุญเชิด ด้วยตนเองว่า ตกลงการเชื่อมจิตเชื่อมได้หรือไม่ ซึ่งนายบุญเชิด ได้ตอบว่า “ในพระไตรปิฎกไม่มีนะครับ แต่ก็จะมีกลุ่มบุคคลหรือบุคคล พยายามที่จะบอกว่าในพระไตรปิฎกมี โดยพยายามเทียบเคียง ซึ่งการเทียบเคียงนั้นพยายามเทียบเทียงว่า ในสมัยพุทธกาลพระพุทธเจ้า ได้ตรัสหรือสนทนาธรรมกับพระอรหันต์ตลอดทั้งคืนทั้งวันนั้น คำถามตามมาก็คือว่า แล้วคนที่กล่าวอ้างว่า เชื่อมจิตนั้นคุณเป็นอรหันต์หรือเปล่า”
นายพิชิต ได้ถามนายบุญเชิด ต่ออีกว่าตกลงการเชื่อมจิต โดยอายุยังเป็นเด็ก ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังอยู่ในความปกครองของบิดามารดา การศึกษาเป็นที่รู้กันว่าไม่ได้เรียน ปริยัติ อยากให้ย้ำฟันธงว่า การกล่าวอ้างว่า ที่ไม่มีปรากฏในพระไตรปิฎก การเชื่อมจิตเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
นายบุญเชิด กล่าวว่า ไม่จริง ในพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทไม่มีเรื่องแบบนี้ในพระไตรปิฎก ถ้าจะถามต่อว่าแล้วมีจริงหรือไม่ ถ้าในคติของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน เช่น ทางทิเบต ที่มีความเชื่อมของเด็กที่อวตารหรือไปพิสูจน์ว่าลามะองค์ถัดไป นั่นเป็นฝ่ายของมหายาน เราอยู่ในประเทศไทยเรายึดเถรวาทเท่านั้น











