ศบค. เคาะฉีดไฟเซอร์เด็กอายุ 12-17 ปี คงพื้นที่ทุกโซนสี เคอร์ฟิวตามเดิม

ศบค. เคาะฉีดไฟเซอร์เด็กอายุ 12-17 ปี คงพื้นที่ทุกโซนสี เคอร์ฟิวตามเดิม

COVID-19

ศบค.ชุดใหญ่ มีมติเห็นชอบเผยแนวทางการให้บริการฉีดวัคซีน Pfizer สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน/นักศึกษา ย้ำ ศบค. ยังคงมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 อย่างเข้มงวด

วันที่ 10 ก.ย. 2564นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การโควิด-19 แถลงผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) ครั้งที่ 14/2564 ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน

สรุปผลการประชุม ศบค.ชุดใหญ่

1. ยังคงเห็นชอบมาตรการคงระดับของพื้นที่สถานการณ์ และคงมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามระดับพื้นที่สถานการณ์ คงมาตรการเคอร์ฟิว เพิ่มความเข้มข้นในการควบคุมกำกับ ตามมาตรการ COVID Free Setting มาตรการควบคุมแบบบูรณาการในการปิดสถานที่เสี่ยงต่าง ๆ สื่อสารให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention

2. แจก ATKฟรี 8.5 ล้านชุด
สนับสนุนสถานประกอบการในการซื้อชุดตรวจ แจกพนักงาน ค่าใช้จ่ายนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า ก.คลังนำเรื่องเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

3. เห็นชอบแผนการจัดหาวัคซีนโควิด – 19 ตามที่ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งวัคซีนที่ได้รับมาแล้วและยังไม่ได้รับ สำหรับในเดือนตุลาคมมีวัคซีนที่จะได้รับการจัดสรร รวม 24 ล้านโดส และจะมีการจัดสรรในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม ตามลำดับ รวมกว่า 152.9 ล้านโดส โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ
1. ประชาชาชนทั่วไป ที่มีอายุ18 ปีขึ้นไป ทั่วประเทศ
2. นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 11 – 17 ปี ทั่วประเทศ
3. แรงงานในระบบประกันสังคม
4. หน่วยงานอื่น ๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์
5. ผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac ครบ 2 เข็ม และต้องการเข็มกระตุ้น (เข็มที่ 3)

– ฉีดไฟเซอร์ 2 เข็ม กลุ่มนักเรียน อายุ 12-17 ปี
– ใช้สูตรไขว้ SV+AZ ประชาชนทั่วไป แรงงาน หน่วยงานรัฐ
– กระตุ้นด้วย AZ เข็ม 3 ให้ผู้รับ SV 2 เข็ม

สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีน Pfizer สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียน/นักศึกษา ที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช./ปวส) เทียบเท่า แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ

  • ระยะแรกจัดสรรวัคซีนสำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.ปวส.) หรือเทียบเท่า
  • ระยะถัดไป จัดสรรวัคซีนให้สำหรับระดับชั้นอื่น ๆ ที่เหลือ มีรูปแบบการให้บริการผ่านสถาบันการศึกษา โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเริ่มจัดส่งวัคซีนในเดือนตุลาคม 2564 โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการจัดสรรวัคซีนสำหรับนักเรียน โดยกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการต่างประเทศจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากรอบวงเงินในการจัดหาวัคซีนต่อไป

4. แผนการจัดหาวัคซีน 3 เดือนสุดท้ายของปี 64

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่าที่ประชุม ศบค.พิจารณาแผนการจัดหาวัคซีนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 64 หลังจากมีมีวัคซีนชนิดต่างๆ ทยอยเข้ามาแล้ว โดยอีก 3 เดือนจะมีตัวเลขวัคซีนเข้ามาอีก  71 ล้านโดส

ต.ค. จะมีเข้ามาอีก 24 ล้านโดส แบ่งเป็นแอสตร้าเซเนกา 10 ล้านโดส ซิโนแวค 6 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ซึ่งจะนำไปสู่การวางแผนการฉีดวัคซีนให้คนไทย

พ.ย. จะมีวัคซีนเข้าไทยอีก 23 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตราเซเนกา 13 ล้านโดส ไฟเซอร์ 10 ล้านโดส

ธ.ค.จะมีอีก 24 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตราเซเนกา 14 ล้านโดส และไฟเซอร์ 10 ล้านโดส

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงความสำคัญของชุดตรวจ ATK ซึ่งจะมีบทบาทคัดกรองโรคให้กับคนไทย เพื่อเพิ่มการตรวจในกลุ่มประชาชนและแรงงาน เพื่อเดินหน้าการเปิดประเทศ มี 2 มาตรการ
1.ผู้ประกอบการซื้อ ATK หากซื้อแล้วสามารถลดหย่อนภาษี 1.5 เท่าของค่าใช้จ่ายที่จ่ายไป
2. เพิ่มเงินในแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ สนับสนุนให้ประชาชนซื้อ ATK ตรวจด้วยตนเอง
ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจช่วงหลายเดือนที่ป่านมามีการระบาดโควิด-19 ซึ่งสถานการณ์ยังไม่จบ ขอให้ทุกท่านร่วมมือต่อไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19

แท็กที่เกี่ยวข้อง
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง