
วันที่ 23 ก.พ. นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลก (WHO) ยังไม่มีคำแนะนำห้ามการเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด ตลอดจนยังไม่มีการกำหนดเป็นมาตรการที่จำเพาะสำหรับผู้เดินทางระหว่างประเทศ
.
ในส่วนของประเทศไทยในฐานะสมาชิกองค์การอนามัยโลก ได้ดำเนินการตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรอง ผู้เดินทางระหว่างประเทศ ในทุกช่องทางเข้าออกประเทศ ครอบคลุมทั้งด่านบก เรือ อากาศ ตลอดจนการเฝ้าระวังที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั้งรัฐและเอกชน
.
อย่างไรก็ตามการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยจะประสบความสำเร็จไม่ได้หากขาดความร่วมมือจากประชาชน

ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีรายงานการระบาดอย่างต่อเนื่องหรือมีการระบาดภายในประเทศ (local transmission) ได้แก่ จีน (รวม ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน) ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ขอให้รับผิดชอบสังคมโดยการเฝ้าระวังอาการตนเองอย่างน้อย 14 วัน งดไม่ไปที่ชุมชน งดใช้ขนส่งสาธารณะ งดใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
.
หากมีอาการสงสัยป่วยขอให้สวมหน้ากากอนามัย วัดไข้ทุกวัน หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ แจ้งประวัติการเดินทาง หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422

ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อที่รักษาตัวในไทย ยอดรวมยังอยู่ที่ 35 ราย โดยล่าสุด หายป่วยกลับบ้านเพิ่มได้อีก 1 ราย เป็นนักท่องเที่ยวหญิงชาวจีน อายุ 54 ปี ที่รักษาที่สถาบันบำราศนราดูร ทำให้ยอดรวมกลับบ้านแล้ว 21 ราย ยังรักษาตัว 14 ราย
.
ซึ่งในจำนวนนี้ยังมี 1 ราย ที่ยังต้องใช้เครื่องเอคโม หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด และอีกรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย

ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค.– 22 ก.พ.มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,355 ราย คัดกรองจากสนามบิน 68 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,287 ราย รวมคัดกรองไปแล้ว 3,046,342 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,071 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 284 ราย
.
ด้านสถานการณ์ทั่วโลกใน 30 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค. – 23 ก.พ. (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 78,673 ราย เสียชีวิต 2,459 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 76,932 ราย เสียชีวิต 2,441 ราย









