แพทย์เร่งให้ยาฟาวิพิราเวียร์แก่ผู้ต้องขังเรือนจำตรัง ส่วนผู้ต้องขังที่กำลังจะพ้นโทษ แยกกักตัว 14 วัน ก่อนกลับบ้านป้องกันเชื้อแพร่ระบาดสู่ชุมชน
วันที่ 30 ต.ค. 2564 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วย นพ.ไกลสร โตทับเที่ยง รองผอ.รพ.ตรัง กล่าวถึงกรณีพบการติดเชื้อโควิด-19 ระบาดภายในเรือนจำจังหวัดตรังซึ่งขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วรวม 863 ราย ที่ผ่านมามีมาตรการเข้มข้นในการรับตัวผู้ต้องขังอยู่แล้ว แต่มาหลุดรอดเพราะเป็นผู้ต้องขังที่รับตัวมาจากจังหวัดอื่น ซึ่งจะมีสถานที่กักตัวก่อนเข้าไปแดนใหญ่ ผู้ต้องขังที่รับตัวมาจากจังหวัดอื่นทุกคนจะต้องมีผลตรวจยืนยันด้วย ATK มายืนยัน แต่ทั้งนี้อาจมีปัญหาจากการนับระยะเวลาของผลตรวจดังกล่าว จึงทำให้หลุดรอดเข้าไปแดนแรกรับจนเกิดการะบาดของเชื้อขึ้นดังกล่าว
เรือนจำจังหวัดตรังมีผู้ต้องขังอยู่ทั้งหมดรวมประมาณ 2,400 คน ขณะนี้ที่ติดเชื้อแล้วจำนวนหนึ่ง และหากตรวจอีกก็คิดว่าน่าจะพบอีก แต่มีแพทย์ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาในการควบคุมการระบาดอย่างเต็มที่ และจะไม่มีการระบาดออกภายนอกอย่างแน่นอน เพราะการรักษา การกักตัว ทั้งหมดอยู่ภายในพื้นที่ของเรือนจำจังหวัดตรัง
นพ.ไกรสร โตทับเที่ยง กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ถึงแม้ว่าผลตรวจยืนยันว่าพบผู้ต้องขังติดเชื้อหลายราย โดยผู้ที่พบผลบวกทางแพทย์จะเร่งรักษาโดยการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ในทันที โดยยืนยันทั้งหมดขณะนี้ไม่พบผู้ติดเชื้อที่อยู่ในสีเหลือง หรือแดง ที่จะต้องเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลตรัง ยกเว้นผู้ต้องขังรายหนึ่ง ที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตรัง เนื่องจากมีโรคประจำตัวอื่น จึงขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าการระบาดในเรือนจำไม่ได้ออกสู่ภายนอก
รวมถึงยังมีมาตรการในกรณีผู้ต้องขังที่จะกำลังจะพ้นโทษได้การปล่อยตัว เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวและชุมชนคือ ในระยะเวลา 14 วัน ก่อนพ้นโทษ จะมีการแยกตัวผู้ต้องขังดังกล่าวไว้ต่างหาก โดยจะต้องมีการตรวจหาเชื้อก่อน หากผลเป็นบวก ก็เข้าระบบการรักษา หากผลเป็นลบ จะต้องเข้าระบบการกักตัวก่อน เพราะยังถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง จนกว่าจะมีการตรวจของแพทย์ให้แน่ใจว่าปลอดโควิดแล้ว จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้










