วัคซีนรุ่นที่ 2 ยังไม่มา ต้องพิจารณาฉีดไขว้วัคซีน
ศ.นพ.ประสิทธิ์ ระบุว่า จากการศึกษาข้อมูลการฉีดวัคซีนไขว้ชนิดเพื่อรับมือกับสายพันธุ์เดลตา ในต่างประเทศพบว่า มีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่าการฉีดวัคซีนชนิดเดียวกัน 2 เข็ม สำหรับประเทศไทยขณะนี้มีทีมวิจัยจาก 4 สถาบันทางการแพทย์ ที่กำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ และในเร็วๆ นี้จะทราบผลว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ถึงแม้ว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) จะแนะนำให้ฉีดวัคซีน 2 เข็ม ชนิดเดียวกันและยังไม่มีการรับรองว่าให้ฉีดชนิด แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ของแต่ละประเทศว่าจะพิจารณาการใช้วัคซีนไขว้
ผู้ป่วยติดเชื้อ 2 สายพันธุ์ ยังสรุปไม่ได้ว่ารุนแรงกว่าหรือไม่
ส่วนประเด็นการพบผู้ติดเชื้อโควิด 2 สายพันธุ์ในคนเดียวกัน ศ.นพ.ประสิทธิ์ บอกว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอในไทย ต่างประเทศก็เคยเกิดขึ้น แต่ยังไม่เคยมีงานวิจัยจากต่างประเทศบอกว่ารุนแรงมากกว่าหรือด้อยลง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถให้คำตอบได้จะต้องรอเวลาในการศึกษาวิจัย ที่สำคัญผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ยังมีไม่มากพอที่จะสรุป
“ที่ผ่านมาพบว่าหากสายพันธุ์ที่แกร่งกว่า ก็จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดแทนที่ ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือการเฝ้าระวังติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อดูอาการของผู้ป่วย”
ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ไทยน่าห่วงตอนนี้คือการเพิ่มความรุนแรงของสายพันธุ์เดลตา ที่กำลังจะเข้ามายึดเป็นสายพันธุ์หลักในประเทศแทนที่สายพันธุ์อัลฟา ดังนั้น ทางที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้คือวัคซีน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค และผู้สูงอายุ
ขออย่ากลัวที่จะฉีดวัคซีน เพราะที่ผ่านมาในโรงพยาบาลศิริราชมีผู้ป่วยหนักจำนวนไม่น้อยที่บอกว่ารอฉีดวัคซีนทางเลือก แต่กลับติดเชื้อแล้วอาการหนัก ก่อนจะเสียชีวิตทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันเลย ดังนั้นการจะรอฉีดวัคซีนทางเลือก คือรอได้ แต่ควรฉีดยี่ห้อที่มีอยู่ขณะนี้ไปก่อนเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนรอบตัว
“ผู้ป่วยโควิดเกินครึ่งของศิริราชตอนนี้ปอดอักเสบ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเยอะมาก ซึ่งคนจำนวนหนึ่งให้เหตุผลที่ไม่อยากฉีดวัคซีน เพราะอยากจะรอวัคซีนปลายปี แต่ผมต้องบอกว่าขอให้ฉีดที่มีไปก่อน เราสามารถฉีดเสริมทีหลังได้ ไวรัสตัวนี้แพร่กระจายได้เร็วจริง ผมว่าถ้าทำความเข้าใจจะดี ทั้งโลกฉีดไปเยอะแล้ว เราเห็นความสำคัญของวัคซีนมาก อย่าลืมว่าการฉีดวัคซีนต้องใช้เวลากว่าภูมิคุ้มกันจะขึ้น ถ้ามีคิวฉีดควรฉีดครับ” ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว










