‘ผกก.สภ.ลาดยาว’ วูบหมดสติ ก่อนจะเสียชีวิต ขณะเตรียมประชุมคดีค้ามนุษย์ คาสโมสรตำรวจ กับ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ คาดสาเหตุเกิดจากโรคหัวใจและความดัน
มีรายงานว่า วันนี้ (20 ก.พ. 66) เวลา 10.00 น. พ.ต.อ.วัฒนกิจ เฉลาประโคน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรลาดยาว จังหวัดนครสวรรค์ ได้วูบหมดสติ ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวิภาวดี หลังเพื่อนตำรวจในที่เกิดเหตุ ช่วยกันปั๊มชีพจร แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้
โดยรายงานระบุด้วยว่า พ.ต.อ.วัฒนกิจ พร้อมด้วย รองผกก.สืบสวน ของจังหวัดนครสวรรค์ ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกมาพบเพื่อซักถามในคดีการค้ามนุษย์ ภายในสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต

ขณะที่ช่วงบ่าย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 (ผบก.น.2) ได้มาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ตนได้สอบถามรายละเอียดเบื้องต้นทราบว่า ระหว่างรอการประชุม พ.ต.อ.วัฒนกิจ มีอาการคล้ายหัวใจวาย โดยวูบหมดสติไป จากนั้นเพื่อนๆ ได้ช่วยกันปฐมพยาบาล และรีบนำส่งตัวไปโรงพยาบาลวิภาวดี อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มากับ พ.ต.อ.วัฒนกิจ บอกว่า ปกติ พ.ต.อ.วัฒนกิจ เป็นคนเเข็งแรงไม่ได้มีอาการแสดงออกถึงความเจ็บป่วย หรือทราบถึงเรื่องโรคประจำตัว
พล.ต.ต.อรรถพล เผยอีกว่า ส่วนสาเหตุจากการเสียชีวิตจะต้องรอการชันสูตรอย่างเป็นทางการจากแพทย์อีกครั้งว่าเป็นการเสียชีวิตเนื่องด้วยโรคประจำตัวหรือไม่หรือด้วยสาเหตุใด ทั้งนี้ร่างของผู้เสียชีวิตขณะนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลวิภาวดี จากนั้นจึงจะนำส่งต่อไปยังสถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ระหว่างที่ผู้เสียชีวิตรอประชุมความคืบหน้าคดีการค้ามนุษย์อยู่นั้น ปรากฏว่า พ.ต.อ.วัฒนกิจ เกิดวูบหมดสติบนเก้าอี้ และเพื่อนๆ รอบข้างได้ช่วยกัน CPR แต่ไม่เป็นผล จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ทัน และจากการสอบถามเบื้องต้นกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจและความดัน
และก็รับทราบเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ผู้เสียชีวิตได้ออกกำลังกายมา นอกจากนี้ คนขับรถได้ระบุว่า ระหว่างที่ พ.ต.อ.วัฒนกิจ นั่งรถมายังสโมสรตำรวจ พร้อมกับคณะทำงานในช่วงเช้านั้น ไม่ปรากฏอาการที่แสดงให้เห็นถึงความเจ็บป่วยทางร่างกายแต่อย่างใด รวมถึงเพื่อนๆ รอบข้างก็ไม่รับทราบว่าผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ อย่างไรคงต้องรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจากแพทย์อีกครั้งเพื่อยืนยันผลการเสียชีวิตให้กับญาติและครอบครัวได้รับทราบ
ส่วนกรณีการเรียกประชุมทางคดีนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่การเรียกเร่งด่วน เป็นไปตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเกือบทุกจังหวัดต้องเข้ามารายงานความคืบหน้าทางคดีของตนเอง อย่างเช่น วันนี้มีประมาณ 10 จังหวัดที่เข้ามา อย่างไรก็ตาม หากทราบผลพิสูจน์การเสียชีวิตจากแพทย์แล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการแจ้งสิทธิเยียวยาต่างๆให้กับทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต เนื่องด้วยเป็นการเสียชีวิตในระหว่างการปฏิบัติราชการ










