ดีเอสไอ ชี้คดี ‘แตงโม’ เข้าข่ายคดีอาญาแผ่นดิน เตรียมประชุมบอร์ดพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ แต่หากตำรวจสรุปสำนวนและอัยการสั่งฟ้องก่อน จะส่งผลสิ้นสุดอำนาจสอบสวนโอนคดีทันที

วันที่ 28 มี.ค. 2565 นายไตรยฤทธ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรียกคณะแพทย์จากสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ และคณะแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมประชุมชุดที่ทำการชันสูตรศพของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม นักแสดงชื่อดังเสียชีวิตตกน้ำระหว่างนั่งสปีดโบ๊ทไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานพระราม 7 เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ว่า จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ เนื่องจาก น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว. และว่าที่ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา มายื่นพิจารณาให้รับเป็นคดีพิเศษ เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา
นายไตรยฤทธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสอบพยานหลักฐานข้อเท็จจริง เพราะคดีมีความซับซ้อน อาจมีผู้มีอิทธิพลเข้าไปยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน หรือเบี่ยงเบนการชันสูตรการเสียชีวิต ทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่นชัดนั้น ซึ่งตามกฎหมายประชาชนทั่วไป นิติบุคคล สามารถร้องเรียนได้ โดย ดีเอสไอ มีคำสั่งให้ตั้งเป็นเลขสืบสวน มอบหมาย พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีดีเอสไอ เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐาน เสนอเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณา
“การประชุมครั้งแรกในวันนี้ ดีเอสไอ เชิญผู้แทนแพทย์จาก 2 หน่วยงาน ซึ่งเป็นผู้เริ่มผ่าศพครั้งแรกและครั้งที่สองมาให้ข้อเท็จจริง เป็นคณะอนุกรรมการพิจารณาเพื่อประกอบสำนวน คาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินกลางเดือน เม.ย.นี้ ก่อนส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการชุดใหญ่ที่มี นายวิษณุ เครืองาม เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ สรุปว่ารับเป็นคดีพิเศษหรือไม่” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

(ภาพจาก : กรมสอบสวนคดีพิเศษ วันที่ 22 มี.ค. 2565)
นายไตรยฤทธ์ เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังผู้ร้องเรียนเพื่อให้ดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ เพราะมองว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นการฆาตกรรมอำพราง มีผู้มีอิทธิพลเข้าไปยุ่งเกี่ยวพยานหลักฐาน เบี่ยงเบนประเด็นการชันสูตรการเสียชีวิต และรายละเอียดของคดีมีความซับซ้อนน่าสงสัย เหมือนจงใจทำให้คดีนี้เป็นอุบัติเหตุจมน้ำเสียชีวิต ทั้งที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด ซึ่งแม้ว่าผู้ร้องจะไม่ใช่ญาติหรือผู้เสียหายแต่เนื่องจากเป็นคดีอาญาแผ่นดิน และคดีมีความซับซ้อน จึงรับคำร้องไว้พิจารณาและดีเอสไอไม่รอช้าวันนี้จึงเรียกทีมแพทย์ผ่าชันสูตรแตงโมทั้ง 2 รอบ มาประชุมและให้ข้อมูลกับคณะกรรมการ เป็นครั้งแรก
ส่วนครั้งต่อไปจะมีการร้องขอพยานหลักฐานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประกอบสำนวนการประชุม เบื้องต้นวางกรอบไว้ไม่เกินเดือน เม.ย. 2565 ก่อนมอบให้คณะอนุกรรมกลั่นกรองพิจารณา และเสนอไปยังคณะกรรมการที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีด้านยุติธรรม เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษชุดใหญ่ พิจารณาก่อนสรุปว่า จะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ
ส่วนการจะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ จะต้องเข้าเงื่อนไข 5 ข้อ คือ
1. คดีมีความซับซ้อน ต้องรวบรวมหลักฐานจำนวนมาก
2. คดีมีความกระทบต่อสังคม
3. กระทบความมั่นคงและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
4. เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
5. มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง ซึ่งจะต้องประมวลจากข้อเท็จจริงที่ปรากฎทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาจะรับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษนั้น จะต้องดำเนินการก่อนที่พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนส่งอัยการและอัยการมีคำสั่งฟ้อง เพราะหากอัยการสั่งฟ้องแล้วจะถือสิ้นสุดกระบวนการสอบสวนทันที และไม่สามารถดึงสำนวนกลับมาได้
ดีเอสไอ รับสืบสวน คดี ‘แตงโม’ แล้ว แต่ยังไม่ได้หมายถึงรับเป็นคดีพิเศษ ยังมีขั้นตอนต้องดำเนินการ ก่อนเสนอ ‘คณะกรรมการคดีพิเศษ’

ภาพจาก : DSI กรมสอบสวนคดีพิเศษ










