รองผบ.ตร. ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ยืนยันขยายผล คดี ‘ครูยุ่น’ ใช้แรงงานเด็ก สอบเพิ่มปมเข้าข่ายค้ามนุษย์หรือไม่
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยในวันนี้ (3 พ.ย. 65) เวลา 21.00 น. กล่าวถึงคดีที่นายมนตรี สินทวิชัย หรือ ครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก จ.สมุทรสงคราม ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายและใช้แรงงานเด็กว่า ตอนนี้ทางพนักงานสอบสวนพบความผิด 2 ส่วน ที่ได้ตั้งข้อหาไปแล้ว คือ การทำร้ายร่างกายเด็กและการใช้แรงงานเด็ก เพราะเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี จะใช้แรงงานเด็กไม่ได้ ไม่ว่าเด็กจะเต็มใจหรือไม่ ซึ่งหากจะใช้แรงงานเด็ก ต้องแจ้งแรงงานจังหวัดเสียก่อน

ส่วนที่ครูยุ่น อ้างว่า ไม่ได้ใช้แรงงาน แต่ดูแลเหมือนลูกนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า เป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาอ้างได้ แต่ต้องดูคำให้การผู้เสียหายเป็นหลัก ส่วนการทำร้ายร่างกายที่ครูยุ่น อ้างว่าเป็นเพียงการทำโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ก็ต้องสอบสวนให้ทราบว่าคำให้การเด็กบอกว่าทำโทษที่เกิดขึ้นกี่ครั้ง และอะไรที่เป็นสาเหตุที่เด็กทนไม่ไหวจนหนีออกมา ซึ่งจะต้องไปดูสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ตอนนี้ยังมีเด็กบางส่วนที่ไม่พร้อมให้การ จะต้องนำเด็กมาสอบปากคำให้ครบ ซึ่งทางตำรวจ จะประสานทีมสหวิชาชีพและพัฒนาสังคมจังหวัด มาสอบปากคำแทน ส่วนจะนำเด็กที่เหลือออกจากมูลนิธิหรือไม่นั้นต้องพิจารณาว่า มูลนิธิจะสามารถดำเนินการต่อได้หรือไม่
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ต้องไล่ดูกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานต่างๆ ว่า การใช้แรงงานเด็กเข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ เช่น ต้องดูว่ารีสอร์ตที่เด็กไปทำงานเป็นของภรรยา หรือเกี่ยวข้องกับครูยุ่นหรือไม่

ส่วนประเด็นเรื่องบัตรประชาชน ที่อดีตเด็กในมูลนิธิ บอกว่า ทางมูลนิธิไม่ได้จัดให้เด็กทำบัตรประชาชน มีการหักค่าหัวคิว ทุจริตเงินบริจาค และประเด็นที่ผู้ปกครองไม่สามารถรับตัวเด็กกลับไปดูแลได้นั้น ทางพนักงานจะต้องสอบสวนขยายผลอีกครั้ง ขอเวลาเจ้าหน้าดำเนินการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
‘ครูยุ่น’ รับทราบข้อหา ทำร้ายร่างกาย-ใช้แรงงานเด็ก
เปิดข้อมูล ‘มูลนิธิคุ้มครองเด็ก’ ใช้แรงงานและทำร้ายร่างกายเด็ก
ช่วยเด็กถูกสถานสงเคราะห์เอกชนในจ.สมุทรสงครามชื่อดัง ทำร้าย พม. รับมาคุ้มครองแล้ว










