สรุปประเด็น ตร.แถลงข่าว จับเจ้าของ ‘ดารุมะ ซูชิ’ อ้างเป็นหนี้ร้อยล้าน ขาดสภาพคล่อง ขาย ‘Voucher 199’ หวังเอาเงินมาหมุน แจ้งข้อหา ‘ฉ้อโกงประชาชน และผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์’ เตรียมฝากขังพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว
(ภาพจาก : ตำรวจสอบสวนกลาง)
ความเคลื่อนไหวหลังตำรวจสอบสวนกลาง จับกุม นายเมธา ชลิงสุข ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหาร ‘ดารุมะ ซูชิ’ (Daruma sushi) ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.37 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ได้แถลงข่าวโดยไม่มีการนำตัวนายเมธา มาแถลงข่าวด้วย
โดยสรุประบุว่า หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับคำร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนมาก และได้รวบรวมหลักฐานอย่างเร็วที่สุด จนมีการออกหมายจับเมื่อเช้านี้ ในทางสืบสวน ทราบว่าผู้ต้องหาได้บินออกจากไทย เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. และได้บินกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 11.00 น. วันนี้ จึงนำกำลังเข้าจับกุม
จากการซักถามผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่า ทำธุรกิจเกิดขาดสภาพคล่อง จึงขายบัตรรับประทานอาหาร (E-Voucher) ในราคา 199 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าความเป็นจริง เพื่อนำเงินมาหมุนในระบบ ซึ่งขายได้วันละหลักล้านบาท แต่เมื่อโดนทวงหนี้จำนวนมาก ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ามีหนี้สิน 100 ล้านบาท จึงตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐอเมริกา โดยวันที่ 16 มิ.ย. เดินทางจากไทยไป Transit ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ จากนั้นได้เดินทางต่อไปที่สหรัฐอเมริกา อยู่ที่นครนิวยอร์ก 2-3 วัน แล้วนั่งเครื่องกลับมาประเทศไทย โดยลงที่ไต้หวัน ก่อนเข้ามายังสนามบินสุวรรณภูมิ เชื่อว่า ผู้ต้องหาต้องการกลับมาสู้คดี แต่ตำรวจก็มั่นใจหลักฐานที่จะดำเนินคดีได้ อีกทั้งจากพฤติการณ์ ผู้ต้องหาเดินทางออกจากประเทศ แล้ววันรุ่งขึ้นก็ปิดร้านทันที
พล.ต.ท. จิรภพ กล่าวถึงการดำเนินคดีว่า ขณะนี้ยังพบว่า นายเมธา เป็นผู้ต้องหาเพียงคนเดียว มีการแจ้ง ข้อหาฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นความผิดมูลฐาน พ.ร.บ.ฟอกเงิน และอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน ว่าจะมีโยกย้ายทรัพย์สินไปที่ใดหรือไม่ และอีกข้อหาคือความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เตรียมนำตัวฝากขังต่อศาลในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว ย้ำตำรวจไม่ได้เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา
ส่วนของการคืนเงินให้ผู้เสียหายนั้น พล.ต.ท.จิรภพ บอกว่า เป็นเรื่องของผู้ต้องหา ทางตำรวจต้องการตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะมีเงินคืนหรือไม่ต้องไปสอบถามกับทางผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้วกว่า 100 คน แจ้งความทางออนไลน์ 300 คน แต่จากการสอบถามผู้เสียหายรวมแล้วน่าจะมีกว่าพันคน ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่ม
1. ผู้บริโภค
2. ผู้ที่ซื้อ Voucher ไปขายต่อ
3. ผู้ซื้อแฟรนไชส์
4. ซัพพลายเออร์
ผู้สื่อข่าวถามถึงเงิน 100 ล้านบาทในบัญชีของผู้ต้องหา พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจอายัดได้หลักแสนบาท มีการค้นตัวผู้ต้องหาขณะจับกุมเจอเงินอีกกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 700,000 บาท ส่วนเงินอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่ามีการโยกย้ายไปซุกซ่อนที่ใดหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สรุป ‘ดารุมะ’ เวาเชอร์ทิพย์ ? หวั่นซ้ำรอย ‘แหลมเกต’
