นพ.ธีระ ชี้ รัฐแก้ปัญหาโควิดล้มเหลว เปิดงานวิจัย สายพันธุ์เดลตาอาจทำติดเชื้อซ้ำรอบสอง

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายฝ่ายบริหารที่แก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ล้มเหลว แม้จะมีการล็อกดาวน์แล้วแต่ก็ยังพบคนติดเชื้อจำนวนมากและเสียชีวิตต่อเนื่อง หนำซ้ำยังเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จึงขอให้ฝ่ายนโยบายแสดงความรับผิดชอบ

“การแสดงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวจากการทำงานนโยบาย ประชาชนจะเห็นจากใครบ้าง ถ้านโยบายและมาตรการผิดพลาดจนคนติดจำนวนมาก ตายจำนวนมาก เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหาศาลต่างประเทศนั้นกลุ่มคนระดับนโยบายล้วนประกาศลาออกกันให้เห็นตั้งแต่แรกแล้ว หน้าด่าน กับ หอคอยงาช้าง นั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว อย่ามาอ้างเพื่อเหมารวมกัน” รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ กล่าว

รศ.นพ.ธีระ ยังได้อัปเดตข้อมูลการกลายพันธุ์ของไวรัส อ้างอิงจากรายงานการศึกษาในสหราชอาณาจักร พบว่าสายพันธุ์เดลตาจะทำให้เกิดการติดเชื้อซ้ำสูงกว่าสายพันธุ์อัลฟาถึง 46% ซึ่งคนที่เคยติดไปแล้วอาจจำเป็นต้องป้องกันตัวอย่าเคร่งครัดเช่นกัน และสายพันธุ์เดลตาทำให้ปริมาณไวรัสมากกว่าเดิม การศึกษาจากทั้งจีนและสหราชอาณาจักร พบหลักฐานที่สอดคล้องกันคือ การติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะทำให้ไวรัสในตัวผู้ติดเชื้อมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมกว่า 1,000 เท่า ซึ่งบ่งชี้ถึงการแบ่งตัวที่ไว และง่ายต่อการแพร่เชื้อติดเชื้อ

ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า หากเปรียบเทียบระหว่างอัลฟ่า เบตา แกมมา และเดลตา พบว่าสายพันธุ์เดลตาน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะติดง่ายขึ้น แพร่ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ได้หรือไม่ได้รับวัคซีนก็สามารถติดเชื้อและแพร่เชื้อได้พอๆ กัน นอกจากนี้ยังมีความรุนแรงของโรคมากขึ้นชัดเจน ทำให้มีโอกาสป่วยรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลมากขึ้น รวมถึงมีความดื้อต่อระดับแอนติบอดี้จากวัคซีนด้วย

ด้วยการระบาดที่ไทยกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ไม่มีทางที่จะจบลงได้เร็วด้วยมาตรการที่มีอยู่ เพราะการระบาดกระจายไปทั่วประเทศ แต่ไม่สามารถทำให้คนหยุดนิ่งได้จริงและทำเพียงเฉพาะบางพื้นที่ ระบบการตรวจคัดกรองโรคไม่เพียงพอ จำนวนการตรวจทำได้น้อยและไม่ครอบคลุมต่อเนื่อง ระบบสาธารณสุขมีข้อจำกัดทั้งเรื่องคน เงิน ของ เครื่องไม้เครื่องมือ ยา เตียงและวัคซีนมีข้อจำกัดทั้งเชิงปริมาณและประสิทธิภาพ

“นี่ไม่ใช่ไวรัสกระจอก หากมาตรการควบคุมโรคไม่เข้มข้นพอ คงยากที่จะตัดวงจรการระบาด” รศ.นพ.ธีระ