
แพทย์สภากาชาดไทย เตือนอย่าส่งต่อข้อมูล กินพืชpH สูงเพิ่มความด่างในเลือดเอาชนะไวรัสโควิด-19 ไม่เป็นความจริง หากกินมากไปกระทบสุขภาพ
จากกรณีข้อมูลที่มีการส่งต่อในโลกออนไลน์ ระบุค่า pH คือความเป็นด่างที่มีอยู่ในกระแสเลือดมีส่วนควบคุมความสมดุลในร่างกาย โดยค่า pH ของไวรัสโควิด-19 มีตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5 สิ่งที่เราต้องทำเพื่อเอาชนะไวรัสโควิด-19 คือต้องกินอาหารที่เป็นด่าง และในอาหารจะต้องมีค่า pH มากกว่าค่า pH ในไวรัส โดยส่วนประกอบของพืชที่มีค่า pH สูงกว่าโคโรนาไวรัสที่น่าสนใจ เช่นมะนาว 9.9 pH อะโวคาโด 15.6 pH กระเทียม 13.2 pH มะม่วง 8.7 pH ส้ม 9.2 pH เป็นต้น
ล่าสุดวันนี้ (7 เม.ย. 63) ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่ตรงกับหลักการทางการแพทย์ และหากประชาชนหลงเชื่อและกินพืชที่มีค่า pH สูงดังกล่าวมากเกินความจำเป็นของร่างกาย ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้ โดยร่างกายมนุษย์มีค่า pH อยู่ที่ 7 หากบวกลบไปเพียงแค่ 1 ก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ทั้งนี้กลไกของร่างกายมีการปรับค่า pH ในเลือดด้วยการปัสสาวะและการหายใจเข้าออกอยู่แล้ว จึงไม่ควรกินพืชเพื่อเพิ่มค่า pH ในเลือดให้สูงขึ้น ตามที่ข้อมูลกล่าวอ้างว่าช่วยเอาชนะไวรัส ซึ่งโดยหลักการแล้ว ความเป็นด่างในกระแสเลือดก็ไม่มี กลไกในการเอาชนะไวรัสได้

ด้าน ทนพ.ภาคภูมิ เดชหัสดิน หรือ หมอแล็บแพนด้า นักเทคนิคการแพทย์ประจำการอยู่ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย กล่าวว่า เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โดยหากสังเกตข้อมูลที่ถูกแชร์ระบุว่ามะนาวมีค่า pH อยู่ที่ 9.9 ซึ่งความเป็นจริงแล้วมะนาวมีค่า pH อยู่เพียงแค่ 2 เท่านั้น ส่วนส้ม ที่ในข้อมูลระบุว่ามีค่า pH 9.2 แต่ความเป็นจริงส้มมีค่า pH อยู่ที่ 3.5 ซึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่าเป็นข้อมูลที่ผิดไปจากความจริงโดยสิ้นเชิง ขณะที่ค่า pH ของไวรัสโคโรนา ที่ระบุว่า อยู่ตั้งแต่ 5.5 ถึง 8.5 นั้น ยังไม่มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันข้อมูลดังกล่าว
สิ่งที่จะฆ่าไวรัสได้ดีที่สุดคือ ภูมิต้านทานของ ร่างกายที่ดี ซึ่งการเสริมสร้างภูมิร้านร่างกายก็คือการกินอาหารที่หลากหลายให้ครบตามหลักโภชนาการ และการออกกำลังกาย ตัวนี้จะช่วยกำจัดไวรัสได้ ส่วนใหญ่ผู้ที่เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 มักเป็นผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่นหัวใจและหลอดเลือด ความดัน เบาหวาน หรือมะเร็ง เป็นต้น เพราะฉะนั้นจึงไม่อยากให้มีการหลงเชื่อและแชร์ข้อมูลผิดออกไปเพราะจะทำให้เสียโอกาสในการรักษา หากปล่อยทิ้งไว้นานอาการของโรคอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
หมอแล็บ กล่าวอีกว่า เท่าที่สังเกตในช่วงที่เกิดไวรัสโควิด-19 ระบาดมีการส่งต่อข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเฟกนิวส์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะพบว่าข้อมูลที่ถูกส่งต่อกันมีลักษณะ นำเอาข้อมูลส่วนที่ถูกต้องมาผสมปนเปให้เกิดความน่าเชื่อถือ ก่อนหน้านั้นก็มีการระบุให้กินกระเทียม ต่อมาก็เป็นน้ำขิงล่าสุดก็เป็นน้ำมะนาว ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา คนที่ตั้งใจปล่อยเฟซนิวทำให้เหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายใกล้ตัวอยู่ในครัว จึงทำให้มีการแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง เพราะฉะนั้นหากจะมีการแชร์ข้อมูลใดๆอยากให้ตรวจสอบก่อนที่จะแชร์ออกไป









