ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ในวันจบการศึกษา โฆษณาทีวี นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ฯลฯ ใครต่อใครอีกมากมายต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ทำตามความฝัน คือ ‘Key Success’ ที่จะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่ไม่เคยมีใครบอกว่า ความฝันไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนจะไปถึงได้ ทางข้างหน้าอาจมีขวากหนามรออยู่มากมาย และบางครั้งความฝันกับการเติบโตเพื่อเอาตัวรอดก็ไม่ได้มาในช่วงเวลาเดียวกัน
‘บอนนี่ ฮาร์เมอร์’ (Bonnie Harmer) รองประธาน NBCUniversal บริษัทสื่อข้ามชาติที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แชร์ประสบการณ์ก่อนจะขึ้นสู่ตำแหน่งระดับผู้บริหาร ในหนังสือเล่มใหม่ของเธอที่มีชื่อว่า ‘15 Lies Women Are Told at Work: and the Truth We Need to Succeed’ โดยฮาร์เมอร์ให้ความเห็นไว้ว่า การบอกให้บัณฑิตใหม่วิ่งไล่ตามความฝัน คือคำแนะนำด้านอาชีพที่เลวร้ายอย่างถึงที่สุด
เธอบอกว่า บรรดารุ่นพี่ในออฟฟิศมักได้รับการส่งต่อแนวคิดว่า ในฐานะคนอยู่มาก่อน สิ่งที่ต้องทำคือการออกแบบโลกใบใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับธรรมชาติของคนยุคหลังที่กำลังเดินเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน เพื่อให้พวกเขาเหล่านี้มีความสุข มีส่วนร่วมกับองค์กร และสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับองค์ประกอบ 12 ประการของ ‘Gallup’ บริษัทสำรวจความคิดเห็นระดับโลกอายุ 89 ปี ที่ระบุว่า สิ่งสำคัญที่คนเจนใหม่ต้องการ คือการมีส่วนร่วมกับองค์กร ได้รับการต้อนรับจากคนในที่ทำงาน ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ตนเองมีคุณค่า
อย่างไรก็ตาม ในมุมของ ‘ฮาร์เมอร์’ เธอกลับมองว่า สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่การดูแลเอาใจใส่ หรือทำตามองค์ประกอบที่ถูกนิยามจากองค์กรใดองค์กรหนึ่ง หากแต่เป็นเรื่องที่ถูกซุกไว้ใต้พรมที่คนทำงานรุ่นก่อนๆ เองก็ถูกส่งต่อคำโกหกเหล่านั้นมาเป็นทอดๆ นั่นคือ การบอกให้คนรุ่นใหม่วิ่งไล่ตามความฝัน
ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ‘Follow your dream’ ไม่ใช่คำแนะนำที่ถูกต้อง และท้ายที่สุดสิ่งที่กำลังวิ่งไล่ตาม อาจพลิกกลายเป็น ‘ฝันร้าย’ ในเส้นทางข้างหน้าก็เป็นไปได้
[ จงทำตาม ‘โอกาส’ มากกว่าทำตาม ‘ความฝัน’ ]
‘ฮาร์เมอร์’ ให้ความเห็นว่า ความฝันมักมีข้อจำกัดอย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นชีวิตการทำงาน แต่ละคนมีความชอบ ความสนใจ ตามศาสตร์สาขาที่เรียนมา มุ่งหมายว่า จะได้ทำงานที่สอดคล้องกับองค์ความรู้ที่สั่งสมตลอดการเรียน แต่ใครเลยจะรู้ว่า เวลาผ่านไปไม่กี่ปีความรู้เหล่านั้นกลับกลายเป็น ‘ของเก่า’ ที่ใช้งานได้เพียงเศษเสี้ยว โลกของ ‘ความไม่รู้’ กำลังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ
ตามรายงานของ World Economic Forum ระบุว่า 1 ใน 4 ของงานทั้งหมดในตอนนี้ จะเข้าสู่สภาวะ ‘หยุดชะงัก’ ในอีก 5 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวทำให้ทุกสาขาอาชีพต้องเปิดกว้างให้กับทางเลือกใหม่ๆ แม้แต่เส้นทางที่เราเคยคิดว่าปลอดภัย ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่า ความรู้เหล่านั้นจะเป็น ‘Safety Net’ ได้อีกแล้ว
หลายปีก่อนหน้านี้ บริษัทเทคโนโลยีบอกว่า ทักษะการเขียนโค้ดควรถูกบรรจุเป็นหนึ่งในแกนวิชาหลักสำหรับหลักสูตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทว่า เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซีอีโอ Nvidia ยักษ์ใหญ่ด้านเอไอระดับโลกกลับบอกว่า การเขียนโค้ดและโปรแกรมไม่ใช่ทักษะสำคัญ เพราะเอไอจะเข้ามาทำหน้าที่นี้แทน มนุษย์ควรเรียนรู้-พัฒนาความเชี่ยวชาญในแขนงเฉพาะทางอื่นๆ มากกว่า อาทิ ชีววิทยา การทำฟาร์มเกษตร เป็นต้น
พูดให้เข้าใจโดยง่าย ก็คือทุกวันนี้โลกหมุนไปอย่างรวดเร็วกว่าเดิม ไม่มีอะไรถูกแช่แข็งให้หยุดนิ่ง แทนที่จะเลือกทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามความสามารถหรือความฝัน การทำตามโอกาสที่เข้ามาจากความเปลี่ยนแปลงต่างหาก ที่จะช่วยให้บทบาทของเราในวงการหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ โดดเด่นมากขึ้น
ผู้บริหาร NBCUniversal ระบุว่า คนทำงานรุ่นใหม่ต้องเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างการมีความฝันเป็น ‘ดาวเหนือ’ กับการปล่อยให้ความฝันมา ‘ครอบครอง’ ตัวเอง การทำตามโอกาสมีแนวโน้มที่จะนำพาเราไปสู่ทักษะ ความสัมพันธ์ และได้พบเจอกับกลุ่มคนใหม่ๆ แม้ว่าโอกาสเหล่านั้นจะไม่เป็นไปอย่างที่เราตั้งเป้าไว้แต่แรกก็ตาม
[ มีส่วนร่วมกับงาน คุณค่าของงานขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราลงมือทำ ]
ไม่ว่าก่อนหน้านี้เราจะเป็นเด็กหน้าห้องคนโปรดของอาจารย์ หรือมีผลการเรียนระดับท็อปคลาส แต่เมื่อเข้าสู่โลกการทำงาน ทุกอย่างคือ ‘สิ่งใหม่’ การทำงานคือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง และทุกครั้งที่ต้องออกสตาร์ทจากศูนย์มักไม่มีอะไรได้มาโดยง่ายอยู่แล้ว บางครั้งเราอาจรู้สึกว่า งานที่ได้รับมอบหมายไม่ใช่งานที่มีคุณค่าแบบที่เคยคิดฝันไว้ ‘ฮาร์เมอร์’ บอกว่า งานแรกในชีวิตของเธอ คือการดูแลสุนัขเลี้ยงแกะในฐานะนักแสดงตัวหนึ่ง ในขณะที่เธอสำเร็จการศึกษาดีกรีปริญญาสองใบ
แต่หลังจากทำหน้าที่ดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ ไม่นาน ‘ฮาร์เมอร์’ ก็ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ และไม่ว่าจะได้รับบทบาทอะไร เธอจะใช้กลยุทธ์คล้ายกันเสมอ คือตั้งใจทำสิ่งที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มที่ เรียนรู้กับหน้าที่ตรงนั้นอย่างสุดความสามารถ การมีส่วนร่วมในที่ทำงานหมายรวมถึงการมีส่วนร่วมในงานนั้นก่อน ที่สุดแล้ว คุณค่าของเราไม่ได้ชั่งตวงวัดด้วยความรู้สึกส่วนตัว แต่ขึ้นอยู่ผลลัพธ์และสิ่งที่เราทำต่างหาก
การเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งมาพร้อมกับการละทิ้งความคิดเดิมๆ ในที่ทำงานบางส่วน เพื่อเปิดรับการเรียนรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่บางครั้งอาจไม่มีคุณค่าในสายตาเรา ไม่แน่ว่า เราอาจค้นพบความฝันจากความรับผิดชอบที่ไม่เคยคาดหวังก็ได้
ที่มา
-
-
-
-
- https://www.linkedin.com/pulse/follow-your-passion-bad-career-advice-gergo-vari/
- https://medium.com/swlh/follow-your-dream-might-be-the-worst-advice-youll-ever-get-38078dfe86a3
- https://www.wsj.com/lifestyle/careers/follow-your-dreams-and-other-terrible-career-advice-3f23590b?mod=workplace_news_article_pos2
-
-
-










