ชาติพัฒนากล้า เสนอ 3 แคนดิเดต ‘สุวัจน์-กรณ์-เทวัญ’ ไม่ลงปาร์ตี้ลิสต์เอง ดันคนรุ่นใหม่ 39 รายชื่อ ขณะที่ ‘เทวัญ’ ยังคงลง ส.ส.เขตโคราช
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า ร่วมแถลงข่าว ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติพัฒนากล้าว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องที่สําคัญ 2 เรื่อง คือ
1.พิจารณาเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติพัฒนากล้า จำนวน 3 คน ตามรัฐธรรมนูญกำหนด คือ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค นายกรณ์ จาติกวานิช หัวหน้าพรรค และนายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค โดยในวันที่ 5 เม.ย.นี้ พรรคจะนํารายชื่อไปยื่นกับทางกกต.ต่อไป
2.เรื่องการจัดลำดับส.ส.แบบบัญชีรายชื่อหรือปาร์ตี้ลิสต์ เนื่องจากเราไม่ได้เป็นพรรคใหญ่มาก ลําดับที่นั่งตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญจะได้ไม่เยอะ โดยเฉพาะเป็นบัตรสองใบ ขณะเดียวกันเราจะต้องสร้างคนรุ่นใหม่ สร้างอนาคตของประเทศที่จะมาช่วยบริหารพรรค ซึ่งเราพยายามที่จะดูจากประสบการณ์ของพวกเรา ซึ่งจะเห็นได้ว่า ในชาติพัฒนากล้าครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มเยอะ มีผู้อาวุโสอยู่คนเดียว คือ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ซึ่งอยู่ในระบบปาร์ตี้ลิสต์
ส่วนรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ จะเห็นคนรุ่นใหม่ อาทิ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นายอรัญ พันธุมจินดา นายวรวุฒิ อุ่นใจ น.ส.เยาวภา บุรพลชัย น.ส.อัครวรรณ เจริญผล นายอดุลย์ เลาหพล นายเอราวัณ ทับพลี นายยุทธนา วิริยะกิติ นางบุษรา เสนะวีณิน

นายสุวัจน์ ยังให้สัมภาษณ์เรื่องจับขั้วทางการเมืองว่า พรรคชาติพัฒนากล้าไม่ได้มีเงื่อนไข ว่าจะร่วมกับใครหรือไม่ร่วมกับใคร เพราะไม่ได้มีศัตรูทางการเมือง และอยากเห็นการเมืองเข้ากันได้ทุกฝ่าย ไม่มีความขัดแย้ง เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้เห็นปัญหาของประเทศใน 2 เรื่องคือการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และอุปสรรคในการแก้ไขปัญหา ก็คือการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพ จึงอยากทำการเมืองให้พูดคุยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ดังนั้นวันนี้ต้องการความปรองดอง ความเป็นปึกแผ่นและความมีเสถียรภาพทางการเมือง
พรรคจึงสามารถทำงานได้กับทุกคนแต่ต้องมีหลักการทางประชาธิปไตย โดยเมื่อเลือกตั้งมาแล้วต้องคำนึงเสียงของประชาชน โดยรัฐบาลต้องมีเสียงข้างมาก ซึ่งมองว่า รัฐบาลที่มีเสถียรภาพจะต้องมีเสียงข้างมากเกิน 300 เสียง ไม่เช่นนั้นจะทำงานลำบาก เห็นได้จากสภาชุดที่ผ่านมาล่มมาแล้วหลายครั้ง










