เลขาฯ กกต. เข้าพบ ‘วิษณุ’ รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย เตรียมเสนอแก้ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. ให้สอดคล้องกับกติกาใหม่ ‘บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ’ พร้อมคลายล็อก ‘ไพรมารีโหวต’ เพิ่มความคล่องตัวให้พรรคการเมือง
จรุงวิทย์ ภุมมา (แฟ้มภาพ)
มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า นายจรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. เตรียมเข้าหารือกับ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 14 ต.ค. 2564 ในเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งใหญ่
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ทูลเกล้าฯ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งจะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 2 ม.ค. 2565
วิษณุ เครืองาม (แฟ้มภาพ)
รายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมา กกต. ได้ศึกษาและยกร่างแก้ไข พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ. 2561 ขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ที่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา
ทั้งนี้ ร่างแก้ไข พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่กกต. จะเสนอ มี 35 มาตรา โดยมีประเด็นสำคัญๆ อาทิ
– แก้ไขเกี่ยวกับการให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ
– จำนวน ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน
– การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะให้นำคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับเลือกตั้งทั้งประเทศ มารวมกัน หารด้วย 100 เพื่อให้ได้คะแนนต่อ ส.ส. 1 คน
กรณีจัดสรรแล้วยังได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อไม่ครบ 100 คน จะจัดสรรให้พรรคที่เหลือคะแนนเศษมากตามลำดับ
– การแบ่งเขตใหม่ 400 เขตให้เสร็จใน 90 วัน
– ส.ส. เขต ใช้เบอร์เดียวกับเบอร์พรรค
– ลดเวลาลงคะแนนเหลือ 16.00 น. เช่นเดิม
– เพิ่มกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จาก 5 คน เป็น 9 คน
– กำหนดเกณฑ์จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง หน่วยละ 800 คน
นอกจากนี้ ในการหารือดังกล่าว อาจมีเสนอเรื่อง ‘ไพรมารีโหวต’ ซึ่งเป็นกระบวนการให้การสรรหา ผู้มาลงสมัคร ส.ส. ของพรรคการเมือง ตามที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 กำหนดไว้
โดยก่อนหน้านี้นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้เสนอแนวทางแก้ไขหลักเกณฑ์ที่กำหนดให้พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครได้ ต้องมีสาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในเขตเลือกตั้ง
แก้ไขเป็น “พรรคการเมืองจะส่งผู้สมัครได้ต้องมีสาขาพรรคการเมือง จังหวัดละ 1 แห่ง ประชุมร่วมกับสมาชิก 500 คน สามารถลงคะแนนเลือกผู้สมัครในทุกเขตเลือกตั้งของจังหวัดต ามบัญชีที่คณะกรรมการสรรหาส่งมาได้” ก็น่าจะทำให้กระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรคคล่องตัวขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับขั้นตอนหลังจาก เลขาธิการกกต. หารือกับทางรัฐบาลแล้ว จะต้องนำประเด็นกลับมาเสนอต่อที่ประชุม กกต. เพื่อยกร่างแก้ไขกฎหมาย และนำไปรับฟังความคิดเห็น ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 เสร็จแล้วจึงจะเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐสภา พิจารณาตามลำดับต่อไป
