กระทรวงการต่างประเทศแจง อียูยังไม่กำหนดให้การฉีดวัคซีนประเภทไหน เป็นเงื่อนไขในการเดินทางเข้าเขตอียู
วันที่ 3 พ.ค. 2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า การเดินทางไปยังประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) จากประเทศไทยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ยืนยันว่าขณะนี้อียูยังไม่ได้ประกาศนโยบายให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 ประเภทใดเป็นเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศสมาชิกอียู โดยตามข้อมูลที่ปรากฏในเว็บไซต์ https://reopen.europa.eu สถานะวันที่ 30 เม.ย. 2564 การเดินทางจากประเทศไทยไปยัง 14 ประเทศสมาชิกอียู ได้แก่ โปรตุเกส สเปน อิตาลี เยอรมนี โครเอเชีย เช็ก โปแลนด์ เอสโตเนีย สวีเดน ฟินแลนด์ บัลแกเรีย กรีซ เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ยังสามารถดำเนินการได้โดยไม่มีเงื่อนไข ส่วนประเทศสมาชิกอียูอีก 13 ประเทศคือ ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ลัตเวีย สโลวีเนีย สโลวาเกีย ฮังการี ลิทัวเนีย โรมาเนีย ออสเตรีย ลักเซมเบิร์ก และไซปรัส ที่เป็นไปแบบมีเงื่อนไขหรือข้อจำกัด ทั้งนี้ แต่ละประเทศมีอำนาจในการประกาศกฎระเบียบเกี่ยวกับการเข้าเมือง และมาตรการด้านสาธารณสุขของตนเอง ประกอบกับสถานการณ์ด้านสาธารณสุขยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้เดินทางจึงต้องตรวจสอบมาตรการสาธารณสุขของประเทศปลายทางก่อนออกเดินทางเสมอ และควรปฏิบัติตามมาตรการนั้นอย่างเคร่งครัด
นายธานี กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวและข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 จากประเทศนอกอียู ที่อาจไม่ได้สิทธิพิเศษตามเงื่อนไขในการเดินทางเข้าอียูนั้น ยืนยันว่าอียูยังไม่ได้กำหนดให้การฉีดวัคซีนหรือไม่ฉีดวัคซีนประเภทใดเป็นเงื่อนไขในการเดินทางเข้าเขตอียูสำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย ดังนั้น ผู้เดินทางจึงควรติดตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศสมาชิกอย่างใกล้ชิด โดยสามารถติดตามกฎระเบียบของแต่ละประเทศสมาชิกอียูล่าสุดได้ทางเว็บไซต์ที่ระบุไว้ข้างต้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อียูกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาวิธีการรับรองเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนฯ (Vaccination Certificate – VC) ของประเทศนอกอียู ซึ่งเมื่อการพิจารณาแล้วเสร็จ จะขึ้นอยู่กับประเทศสมาชิกอียูแต่ละประเทศจะนำไปกำหนดมาตรการและเงื่อนไขในการเดินทางเข้าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อมูลว่าอียูจะจำกัดยี่ห้อวัคซีนใน VC จากประเทศนอกอียูหรือไม่










