หน่วยงานของสหภาพยุโรปประกาศดันร่างกฎหมายสายชาร์จเข้าสภา ด้านแอปเปิ้ลแถลงค้าน ห่วงเกิดผลเสียต่อผู้บริโภค
วันที่ 23 ก.ย. 2564 คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission) ออกแถลงการณ์ว่าจะกำหนดมาตรฐานสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ให้รองรับการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C เพื่อลดจำนวนขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดขึ้น และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้บริโภค
ข้อกำหนดใหม่นี้น่าจะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ของแอปเปิล (Apple) ซึ่งใช้พอร์ต Lightning มากที่สุด ขณะที่คู่แข่งรายอื่นมักจะใช้ USB-C เป็นปกติอยู่แล้ว
With more and more devices, more and more chargers are sold that are not interchangeable or not necessary.
We are putting an end to that.
With our proposal, you will be able to use a single charger for all these types of portable electronics ↓#DigitalEU pic.twitter.com/EtFvY2Xyrh
— European Commission (@EU_Commission) September 23, 2021
ตามแถลงการณ์ระบุว่า ตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ทางคณะกรรมาธิการฯ ได้ใช้วิธีการติดต่อพูดคุยเพื่อปรับลดประเภทของจุดเชื่อมต่อลงจาก 30 ชนิด เหลือเพียงแค่ 3 ชนิด โดยทั้งหมดเป็นไปด้วยความสมัครใจ
แต่เนื่องจากวิธีดังกล่าวยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดได้ จึงต้องกำหนดเป็นร่างกฎหมายขึ้นมาเพื่อบังคับใช้กับอุปกรณ์ทุกชนิด
นอกจากโทรศัพท์มือถือแล้ว ร่างกฎหมายฉบับนี้ยังครอบคลุมไปถึงแทบเล็ต กล้อง หูฟัง ลำโพงพกพา และเครื่องเล่นเกมคอนโซลพกพาอีกด้วย
ในขณะเดียวกัน ยังได้ห้ามขายพ่วงสายชาร์จร่วมกับอุปกรณ์ โดยผู้บริโภคจะสามารถซื้ออุปกรณ์เครื่องใหม่ได้โดยไม่ต้องมีสายชาร์จอยู่ในกล่อง เพื่อลดจำนวนสายชาร์จที่ไม่เป็นที่ต้องการ
ส่วนตัวสายชาร์จเอง จำเป็นจะต้องรอบรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วเหมือนๆ กัน ห้ามทำการจำกัดความเร็วในการชาร์จเฉพาะอุปกรณ์บางยี่ห้อ เพื่อให้สายหนึ่งสายสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทั้งหมดได้แบบไม่แตกต่างกัน
สำหรับขั้นตอนต่อไป จะมีการนำร่างกฎหมายนี้เข้าสู่สภา และเมื่อประกาศบังคับใช้แล้ว ทางผู้ผลิตจะมีเวลา 24 เดือนในการทำตามข้อกำหนดที่ออกมาใหม่
ขณะที่แอปเปิลได้ออกมาแสดงถึงความไม่เห็นด้วย โดยให้เหตุผลว่า ข้อกำหนดที่เคร่งครัดในการกำหนดสายเชื่อมต่อเพียงชนิดเดียว จะเป็นข้อจำกัดทางนวัตกรรม และจะส่งผลเสียต่อผู้บริโภคทั้งในยุโรปและทั่วโลก










