EV จีนโดน EU สอบ ทำไมเป็นโอกาส ‘ไทย’ ส่งออก EV แทน

EV จีนโดน EU สอบ ทำไมเป็นโอกาส ‘ไทย’ ส่งออก EV แทน

Uncategorized

รถ EV ประเภท BEV (รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ล้วน) นำเข้าจากจีนอาจโดนสหภาพยุโรป (EU) เก็บภาษีเพิ่ม อาจเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกทดแทน ทำให้ปี 2567 ไทยอาจส่งออก BEV จากไทยไปยุโรปเพิ่มขึ้นราว 10,000 คัน 

ปัจจุบัน ‘จีน’ ขึ้นแท่นเป็นประเทศผู้ส่งออกรถยนต์สูงที่สุดในโลก โดยมีสัดส่วนการส่งออก BEV สูงถึงเกือบ 1 ใน 4 และมีกลุ่มประเทศ ‘สหภาพยุโรป’ เป็นตลาดส่งออกหลัก หรือคิดเป็นส่วนแบ่งกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 50% ของมูลค่าการส่งออก BEV ของจีน 

[ BEV จีนขยับกินส่วนแบ่ง อียูประกาศสอบ ]

ในปี 2565 การนำเข้า BEV จากจีนในสหภาพยุโรปเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้คณะกรรมธิการยุโรปเกิดความกังวล เพราะมองว่า BEV จีนที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้อาจกระทบอุตสาหกรรมการผลิต BEV ในอียูได้

เนื่องจาก BEV นำเข้าจากจีนกินส่วนแบ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ในอียู จาก 8% ในปีนี้ อาจขยับเป็น 15% ในอีก 2 ปีข้างหน้า 

อีกทั้งถ้าเทียบกับประเทศอื่น เช่น สหรัฐฯ ที่เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีน 27.5% อินเดียเก็บจากจีนที่ 70% แล้ว อียูที่เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์จากจีนแค่ 10% ถือว่าน้อยมาก

เมื่อวันที่ 4 ต.ค.66 คณะกรรมาธิการยุโรปจึงได้เปิดประกาศสอบสวนอย่างเป็นทางการกับ BEV นำเข้าจากจีนทุกค่ายไม่จำกัดสัญชาติ เรื่องที่อาจมีการรับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ซึ่งอาจนำมาสู่มาตรการเรียกเก็บภาษีตอบโต้การอุดหนุนอย่างเร็วที่สุดคือเดือนกรกฎาคม 2567

 [ โอกาสไทยส่งออก EV แทน แม้ยังไม่มาก แต่เป็นก้าวแรก ]

สำหรับโอกาสของประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย (K-Research) มองว่า จากกรณีนี้ไทยมีโอกาสได้รับประโยชน์ โดยค่าย EV จีนที่ได้รับผลกระทบแล้วมีการลงทุนในไทยด้วย อาจส่งออก BEV รุ่นเดียวกันที่ผลิตในไทยไปยังตลาดยุโรปทดแทน 

แต่เนื่องจากต้นทุนการผลิตในไทยอาจสูงกว่าผลิตในจีน เพราะค่ายรถจีนเพิ่งจะเริ่มเดินสายการผลิตในไทยปีหน้า ทำให้ยังไม่ถึงจุดที่ได้ Economies of scale จึงอาจทำให้ไทยได้โอกาสส่งออกทดแทนไปยุโรปแค่บางส่วน 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าในจำนวนกำลังการผลิต BEV ปี 2567 ของค่ายจีนในไทยที่น่าจะทำได้ไม่น้อยกว่า 70,000 คัน นั้น มีโอกาสที่จะส่งออกไปตลาดยุโรปราว 10,000 คัน

ซึ่งแม้จะยังน้อยหรือคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 8% ของยอดขาย BEV ค่ายจีนทั้งหมดในยุโรปที่อาจขายได้ไม่ต่ำกว่า 130,000 คันในปีหน้า แต่ก็จะนับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของการส่งออก BEV จากไทยไปยุโรป  

อย่างไรก็ดี ตัวเลขคาดการณ์ส่งออกมีโอกาสต่ำกว่าที่คาดได้ หากคำตัดสินออกมาล่าช้าซึ่งอาจทำให้กว่าจะเริ่มเก็บภาษี BEV นำเข้าจากจีนได้เป็นช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 67 ไปแล้ว 

แต่หากมีประเด็นที่ส่งผลต่อทิศทางการตัดสินของคณะกรรมาธิการยุโรปที่เปลี่ยนไป อาทิ แนวทางการเก็บภาษีมีความเห็นที่ไม่ตรงกันในกลุ่มประเทศอียูหรือจีนอาจมีมาตรการตอบโต้กระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิต BEV ในยุโรปที่จีนเป็นเจ้าตลาดในการผลิตแบตเตอรี่นั่นเอง

AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง