ปภ.รายงานเกิดน้ำท่วมและวาตภัยในพื้นที่ 8 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,696 ครัวเรือน ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหาย และช่วยเหลือผู้ประสบภัย
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในระหว่างวันที่ 17-20 ธ.ค. 65 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และลมกระโชกแรง แยกเป็น
สถานการณ์อุทกภัย เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัดได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา นราธิวาส ยะลา และพัทลุง รวม 23 อำเภอ 68 ตำบล 285 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 15,619 ครัวเรือน ดังนี้
1. นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปากพนัง รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอบันนังสตา รวม 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
3. สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอรัตภูมิ อำเภอควนเนียง อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม และอำเภอจะนะ รวม 9 ตำบล 28 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4. นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร อำเภอรือเสาะ อำเภอระแงะ อำเภอจะแนะ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุไหงปาดี อำเภอบาเจาะ อำเภอแว้ง อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอตากใบ รวม 46 ตำบล 231 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15,529 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5. พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะโหมด อำเภอศรีนครินทร์ และอำเภอกงหรา รวม 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
สถานการณ์วาตภัย เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ จันทบุรี ปัตตานี นครศรีธรรมราช และสงขลา รวม 11 อำเภอ 16 ตำบล 20 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 77 ครัวเรือน ดังนี้
1. อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชานุมาน อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอปทุมราชวงศา รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4 ครัวเรือน
2. จันทบุรี เกิดวาตภัยพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4 ครัวเรือน
3. ปัตตานี เกิดวาตภัยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปะนาเระ อำเภอยะหริ่ง และอำเภอยะรัง รวม 6 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29 ครัวเรือน
4. นครศรีธรรมราช เกิดวาตภัยพื้นที่อำเภอหัวไทร รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 20 ครัวเรือน
5. สงขลา เกิดวาตภัยพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอจะนะ รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24 ครัวเรือน
ด้านการรถไฟฯ แจ้งปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินรถสายใต้ ที่มีต้นทางปลายทางที่สถานีหาดใหญ่ ยะลา และสุไหงโก-ลก ระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคม 2565 เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วม
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ขอแจ้งปรับเปลี่ยนการเดินรถเส้นทางสายใต้ ที่มีต้นทางปลายทางที่สถานีหาดใหญ่ ยะลา และสุไหงโก-ลก ระหว่างวันที่ 18-19 ธันวาคม 2565 หลังเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีมวลน้ำไหลเข้าท่วมทางรถไฟสายใต้ ส่งผลกระทบต่อการเดินรถช่วงระหว่างสถานีควนเนียง – บ้านเกาะใหญ่ อำเภอควนเนียง จ.สงขลา น้ำสูงท่วมสันราง 15 เซนติเมตร และเกิดเหตุดินสไลด์ระหว่างสถานีวัดควนมีด กับสถานีนาม่วง ทำให้ขบวนรถไม่สามารถผ่านได้ และจำเป็นต้องปิดเส้นทางระหว่าง สถานีควนเนียง – บ้านเกาะใหญ่
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นถึงหนาว และอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย รวมถึงให้ระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากอากาศแห้งและลมแรง
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยและห่างฝั่งบริเวณทะเลอันดามันคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565
ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันเล็กน้อย เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้น










