พายุดีเปรสชัน ‘คมปาซุ’ อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่ไทยยังมีฝนตกหนักในภาคกลาง อีสาน ตะวันออก ตะวันตก ภาคใต้ ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่
วันที่ 15 ต.ค. 2564 ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุ “คมปาซุ”” ฉบับที่ 13 เมื่อเวลา 23.00 น. พายุดีเปรสชัน “คมปาซุ” บริเวณตอนเหนือของเมืองวิญ ประเทศเวียดนามตอนบน ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้วในบริเวณดังกล่าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนลดลง
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 16 ต.ค. 2564
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า
ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออก จะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย
กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง











