น้ำท่วมนาล่ม รัฐบาลจ่ายส่วนต่างรายได้หากขึ้นทะเบียนไว้

น้ำท่วมนาล่ม รัฐบาลจ่ายส่วนต่างรายได้หากขึ้นทะเบียนไว้

วันที่ 14 ก.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ พร้อมคณะจากกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและพบปะเกษตรกร ต.เกษตรวิสัย อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด ที่ได้ผลกระทบจากพายุและน้ำท่วม และเป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล โดยมีเกษตรกรจากหลายจังหวัดเข้าร่วม

นายจุรินทร์ กล่าวว่า นโยบายประกันรายได้เกษตรกร พืชเกษตร 5 ประเภท ข้าว ยางพารา ปาล์ม มันสำปะหลัง ข้าวโพด ซึ่งตอนนี้ส่วนของข้าวกำหนดประกันรายได้ 5 ประเภทคือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ประกันรายได้อยู่ที่ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ประกันรายได้อยู่ที่ 14,000 บาทต่อตัน ไม่เกิน 16 ตัน, ข้าวเปลือกหอมเจ้า ประกันรายได้อยู่ที่ 10,000 บาทต่อตัน ไม่เกิน 30 ตัน, ข้าวเปลือกหอมปทุม ประกันรายได้อยู่ที่ 11,000 บาทต่อตัน ไม่เกิน 25 ตัน ข้าวเปลือกเหนียว ประกันรายได้อยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน ไม่เกิน 16 ตัน

นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า กรณีชาวนาที่ปลูกข้าวแล้วเกิดน้ำท่วม ภัยแล้ง ภัยธรรมชาติจนนาล่ม มีคำถามว่าจะได้เงินส่วนต่างนี้หรือไม่ คำตอบคือได้ และชาวนาที่ปลูกข้าวเพื่อเก็บไว้กินเอง จะได้เงินส่วนต่างนี้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ แต่ชาวนาจะต้องไปขึ้นทะเบียน ภายในวันที่ 31 ต.ค. นี้ และจะมีการจ่ายส่วนต่างล็อตแรกในวันที่ 15 ต.ค. นี้

ขณะนี้มีเกษตรกรเข้าร่วมขึ้นทะเบียนกับกรมการส่งเสริมการเกษตร และเปิดบัญชีกับธนาคาร ธกส. จำนวน 4.1 ล้านครอบครัว ซึ่งขั้นตอนกระบวนการถัดจากนี้คือ นโยบายประกันรายได้จะทำให้ชาวนามีรายได้ 2 ทางคือ รายได้จากการขายข้าวจากราคาท้องตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิด และคุณภาพข้าว รายได้ส่วนที่ 2 ได้จากส่วนต่างตามนโยบายของรัฐบาล ขอย้ำว่า ชาวนาที่ขึ้นทะเบียนไว้และปลูกข้าวจริง แม้ประสบภัยน้ำท่วมก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินส่วนต่างนี้แน่นอน และนโยบายประกันรายได้จะดำเนินการตลอดอายุรัฐบาลชุดนี้

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง