เกิดขึ้นแทบทุกปีเรื่องของการถูกบังคับขายหุ้น (Forced Sell) ในตลาดหุ้นไทย แม้ว่าจะมีบทเรียนครั้งใหญ่หลายครั้ง แต่นักลงทุนก็ยังคงพลาดท่าเสียทีกับเรื่องนี้ตลอด
เคสใหญ่ๆ ที่เราเคยได้ยินก็อย่าง บมจ. อาร์เอส (RS) ที่ถูกบังคับขาย (Forced sell) จากการจำนำหุ้นนอกตลาดจนนำไปสู่ราคาหุ้นที่ร่วงหนักในปีที่แล้ว
หรืออย่างเคสล่าสุดของ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) หลังราคาหุ้นปรับตัวลงทำจุดต่ำสุด 15% ตามเกณฑ์ Ceiling & Floor ชั่วคราวของตลาดหลักทรัพย์ จนทำให้เศรษฐีหุ้นไทยหมื่นล้านถูกบังคับขายหุ้น (Forced Sell)
คำถามก็คือ Forced Sell เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า? อารมณ์เหมือนนักลงทุนคนนี้ดันโชคไม่ดีซวยเกินไปอะไรแบบไหม?
แต่ความจริงแล้ว Forced sell ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย แต่มันเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากเงื่อนไขในสัญญามาร์จิ้น หรือบัญชีที่ใช้เงินกู้ยืมซื้อหุ้น และเกิดขึ้นเมื่อมูลค่าหลักประกันที่นักลงทุนวางไว้ ดันไม่พอค้ำหนี้ซะงั้น
หรือถ้าพูดกันตามตรงก็คือ Forced sell = กลไกป้องกันความเสี่ยงของโบรกเกอร์ ไม่ใช่โชคร้ายหรือความบังเอิญ เเละ forecd sell มักเกิดขึ้นเร็วมากแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะโบรกขายหุ้นทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยงตัวเอง
ทั้งนี้ ถ้าพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิด Forced sell นอกจากเรื่องของมาร์จิ้นคอล (Margin Call) แล้วยังมาจากสาเหตุอื่น เข่น
– การผิดนัดชำระหนี้ (Default) หากนักลงทุนไม่สามารถชำระหนี้หรือค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด โบรกเกอร์จะขายสินทรัพย์เพื่อชดเชยหนี้
– การทำผิดเงื่อนไขสัญญา (Breach of Agreement) เช่น การใช้บัญชีซื้อขายเกินวงเงินที่กำหนด หรือผู้ลงทุนไม่สามารถชำระเงินค่าซื้อหุ้นตามระยะเวลาที่กำหนด
– ความเสี่ยงต่อการล้มละลาย หากนักลงทุนมีความเสี่ยงทางการเงินสูง โบรกเกอร์อาจขายสินทรัพย์เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นตามมาภายหลัง
สำหรับวิธีการป้องกันไม่ให้เกิด Forced sell ก็มีด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น
นักลงทุนต้องคอยติดตามสถานะบัญชีด้วยการตรวจสอบระดับมาร์จิ้นและมูลค่าหลักประกันอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการใช้มาร์จิ้นเกินความจำเป็นโดยการใช้เงินกู้เฉพาะเมื่อมั่นใจในความเสี่ยงที่สามารถรับได้
หรือจะเป็นวิธีเตรียมเงินสดสำรองไว้เติมหลักประกันในกรณีฉุกเฉินเพื่อไม่ให้โดน Forced sell รวมถึงกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาสินทรัพย์ตัวเดียว
หลายคนอาจจะเริ่มรู้สึกกลัว แต่จริงๆ forecd sell น่ากลัวสำหรับคนที่ไม่เตรียมตัวหรือไม่เข้าใจกลไกความเสี่ยงของการใช้มาร์จิ้นมากกว่า เพราะถ้านักลงทุนบริหารพอร์ตและความเสี่ยงดีพอโอกาสเกิด forced sell ก็จะน้อยมาก
ดังนั้น ก่อนการลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลให้ครบถ้วนเสมอ เพราะถ้าวางแผนดี Forced sell ไม่ใช่สิ่งน่ากลัวเลย ถ้าไม่ใช้มาร์จิ้นหรือใช้อย่างรอบคอบก็แทบจะไม่มีวันโดน forced sell
Forced sell = ไฟไหม้บ้าน ส่วนโบรกเกอร์ = หน่วยดับเพลิง แต่ถ้าเราติดตั้งเครื่องเตือนควัน มีการวางแผนความเสี่ยงไว้ดีแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวไฟไหม้เลย










