5 ล้านดอลล์ แลกอยู่อเมริกา ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ออก Gold Card Visa เจาะกลุ่มนักลงทุน-เศรษฐี

5 ล้านดอลล์ แลกอยู่อเมริกา ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ออก Gold Card Visa เจาะกลุ่มนักลงทุน-เศรษฐี

รัฐบาล ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เตรียมแผนการออก “Gold Card Visa” วีซ่ารูปแบบใหม่ในราคา 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 170 ล้านบาท) มอบสิทธิพำนักถาวรในสหรัฐฯ และเปิดทางสู่การขอสัญชาติสำหรับผู้ลงทุนระดับมหาเศรษฐี

’โดนัลด์ ทรัมป์‘ ออกมาพูดเรื่องนี้ว่า วีซ่าทองคำจะคล้ายกับกรีนการ์ด แต่เจาะจงให้ “บุคคลที่มีศักยภาพสูง” และสามารถลงทุนในสหรัฐฯ ในรูปแบบช่วยการสร้างงานในประเทศ

“คนที่จ่าย 5 ล้านดอลลาร์ได้ ย่อมช่วยสร้างงาน พวกเขาจะซื้อกันเยอะแน่นอน มันคุ้มค่า” ทรัมป์บอกกับสื่อ

[ วีซ่าใหม่แทนที่ระบบ EB-5 ]

รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ระบุว่า วีซ่าทองคำจะมาแทนที่โครงการวีซ่าเพื่อการลงทุน (EB-5) ที่มีในปัจจุบัน แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแน่ชัด

ซึ่งโครงการวีซ่า EB-5 เดิม กำหนดให้นักลงทุนต่างชาติต้องลงทุนราว 1 ล้านดอลลาร์ และสร้างงานเต็มเวลาอย่างน้อย 10 ตำแหน่งในสหรัฐฯ จึงจะได้ถิ่นที่อยู่ถาวร

ในปี 2024 มีรายงานว่ากระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกวีซ่า EB-5 ราว 12,000 ฉบับ
ส่วนสาเหตุที่ปรับรูปแบบวีซ่าจาก EB-5 มาเป็น Gold Visa นั้น ต้องการพัฒนารายละเอียดมากขึ้นและทำให้ผู้ถือ Gold Card มีลักษณะเป็นพลเมืองคุณภาพระดับโลก

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลจะกำหนดคุณสมบัติหรือคัดเลือกผู้รับวีซ่าอย่างไร จะมีข้อยกเว้นใดบ้าง หรือจะมีการกำหนดเพดานจำนวนวีซ่าไว้หรือไม่

[ เปรียบเทียบกับ Golden Visa ของยุโรป ]

เรื่องนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ยกตัวอย่างโปรแกรมลงทุนเพื่อขอถิ่นที่อยู่ในประเทศต่างๆ เช่น Golden Visa ของโปรตุเกส ที่นักลงทุนต่างชาติสามารถลงทุน 500,000 ยูโร (ประมาณ 524,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) แล้วได้รับถิ่นที่อยู่ถาวร โครงการ Gold Card Visa ของสหรัฐฯ จึงตั้งเป้าให้ได้ผู้ลงทุนระดับสูงกว่า เพื่อกระตุ้นการสร้างงานและเพิ่มรายได้ในประเทศ

ทรัมป์ กล่าวอีกว่า บริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ จะสามารถใช้โครงการวีซ่าทองคำนี้จ้างคนเก่งจากต่างแดนได้สะดวกขึ้น และผู้ถือ Gold Card Visa จะสามารถสมัครเป็นพลเมืองได้หลังจากถือถิ่นที่อยู่ถาวรตามระยะเวลาที่กำหนด (โดยปกติ กรีนการ์ดทั่วไปใช้เวลา 5 ปีในการยื่นขอสัญชาติ)

[ เงินที่ได้ไปโปะหนี้ประเทศ ]

ทรัมป์เสนอความเห็นว่า รายได้จากการขายวีซ่าในราคา 5 ล้านดอลลาร์นี้อาจนำไปใช้ลดหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งที่หวังจะสร้างประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจและการคลัง

[ ไทยก็มีคล้ายกัน ]

ไทยมีโปรแกรมวีซ่าพิเศษสำหรับชาวต่างชาติที่มีฐานะหรือเป็นนักลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่สามารถลงทุนหรือจ่ายค่าสมาชิกเพื่อได้รับสิทธิพิเศษในการพำนักระยะยาว นั่นก็คือThailand Elite Visa

เป็นโครงการภายใต้บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ การ์ด ที่มีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยถือหุ้น
ผู้สมัครต้องจ่ายค่าสมาชิกขึ้นกับประเภทของแพ็กเกจ เช่น Elite Easy Access (วีซ่า 5 ปี) Elite Superiority Extension (วีซ่า 20 ปี) เป็นต้น

ซึ่งได้รับสิทธิ์พำนักในประเทศไทยระยะยาว พร้อมบริการพิเศษ เช่น Fast Track ที่สนามบิน บริการอำนวยความสะดวกทางราชการ

นอกจากนี้ยังมี วีซ่า LTR ให้สิทธิพำนัก 10 ปี (ขยายได้สูงสุด 10+10 = 20 ปีในบางเงื่อนไข) และสิทธิพิเศษด้านภาษี ตลอดจนขั้นตอนการขอใบอนุญาตทำงานที่ง่ายขึ้น

รวมทั้งยังมี SMART Visa ที่ออกแบบมาสำหรับผู้เชี่ยวชาญหรือนักลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือสตาร์ตอัป โดยต้องเข้าเงื่อนไขด้านรายได้ขั้นต่ำและคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น การร่วมทุนในธุรกิจที่ไทยสนับสนุน ได้สิทธิพำนักสูงสุด 4 ปี พร้อมผ่อนปรนด้านใบอนุญาตทำงาน เป็นต้น

Chalathip ThirasoonthrakulWriterChalathip Thirasoonthrakul
Business and Economics Editor
[email protected]

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง